1.ทำลิสต์สาเหตุของความเครียด
ในขั้นตอนแรก เราต้องมาดูก่อนว่า ความเครียดนั้นเกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการเรียน ความเครียดจากการทำงาน หรือเรื่องเงิน ถ้ามีความเครียดมากกว่า 1 เรื่อง ควรเขียนลงบนกระดาษเป็นข้อๆ แบ่งออกเป็น ความเครียดจากปัญหาที่แก้ไขไม่ได้,ความเครียดจากปัญหาที่แก้ไขได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา , และความเครียดจากปัญหาที่แก้ไขได้ในทันที
__________________________________________________________________________________
2.เข้าใจปัญหา
-ปัญหาที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ หรืออยู่นอกเหนืออำนาจการควบคุมของเรา
เช่น ปัญหาความเครียดเรื่องฝุ่น PM 2.5 เราไม่สามารถแก้ไขได้ ก็ต้องเปลี่ยนความเครียด เป็นหาทางป้องกัน ในการใส่หน้ากากกรองฝุ่น หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้ง
ปัญหาทางด้านครอบครัว จากครอบครัวมีปัญหา หรือภาวะต่างๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ อาจจะต้องปรับเปลี่ยนที่ตัวเอง เช่น ทำที่ว่างระหว่างกันให้มากขึ้น
-ปัญหาที่แก้ไขได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา
ต้องเริ่มคิด และวางแผนในการแก้ไขปัญหา เช่น ความเครียดจากการไม่มีเงินเก็บ การแก้ปัญหาคือ ค่อยๆปรับเปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน เริ่มจากการเก็บเงินทีละน้อย แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนเงินมากขึ้น ซึ่งความเครียดชนิดนี้ ไม่สามารถแก้ไขได้ภายในระยะเวลาอันสั้น จึงต้องอาศัยความอดทน และความตั้งใจจริง ถึงจะกำจัดความเครียดออกไปได้
-ปัญหาที่แก้ไขได้ในทันที
เช่น ความเครียดจากปัญหาความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ การโดนเอาเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบแฟน หรือแบบเพื่อน ตัวอย่างเช่น ปัญหาแฟนเจ้าชู้ หรือโดนเพื่อนหักหลัง ก็สมควรตัดความสัมพันธ์ประเภทนี้ไปในทันที เพราะถ้ายังยื้ออยู่ไป ก็จะมีแต่สร้างความเครียดให้กับชีวิตของคุณ
__________________________________________________________________________________
3.แก้ไขปัญหา
แบ่งออกเป็น 3 ข้อคือ
-แก้ที่ตัวปัญหา
เช่น ความเครียดจากเพื่อนร่วมงาน วิธีแก้คือเข้าไปคุย ปรับความเข้าใจ หรือความเครียดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ก็ควรดึงตัวเองออกมาจากจุดนั้น
-แก้โดยการหากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
การเดินออกมาจากความเครียด หรือหาสิ่งเบี่ยงเบนความเครียด ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้ ให้เริ่มจากการมองหาความสุขเล็กๆน้อยๆ เช่นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นกับสัตว์เลี้ยง หรือแม้กระทั่งการนอนหลับ ถึงแม้จะไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ แต่อย่างน้อยก็ได้มีเวลาที่พอจะช่วยผ่อนคลายความเครียดได้บ้าง
-การปล่อยวาง
บางเรื่องที่เราไม่สามารถแก้ได้ ก็ควรปล่อยวาง เช่นเรื่องโดนติ โดนนินทา ในความเป็นจริงเเล้ว เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้ ตราบใดที่เราไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ก็ถือว่าสิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหา และไม่ควรเครียด หรือความเครียดจากการสูญเสีย ความจริงคือ ไม่มีใครที่ไม่พบเจอการสูญเสีย
__________________________________________________________________________________
4.หาวิธีรับมือกับความเครียดในอนาคต
เป็นสัจธรรมที่ว่า มีดี ก็มีร้าย มีสุข ก็มีทุกข์ วันนี้เราอาจจะเจอความเครียด หรือเจอปัญหา แต่พรุ่งนี้มันจะต้องดีขึ้น หรือวันนี้เป็นวันที่ดี ก็ควรตั้งรับกับความพลาดพลั้ง หรือความผิดหวังที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเอาไว้ ข้อดีของความเครียด และปัญหาคือ มันทำให้เราดื่มด่ำ และเห็นความสำคัญของความสุขมากขึ้น
__________________________________________________________________________________
5.หาวิธีสร้างกำลังใจ และสร้างความสุขให้กับตัวเอง
บางคนอาจจะมองว่าความสุขเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่อันที่จริงเเล้ว เราไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า หรือประสบความสำเร็จในชีวิต ถึงจะมีความสุขได้ ความสุขสามารถเกิดจากสิ่งเล็กๆน้อยๆได้ เช่นการให้ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ การบริจาคเงินเล็กน้อยให้มูลนิธิ การบริจาคเสื้อผ้าให้เด็กยากไร้
การให้กำลังใจผู้อื่น เมื่อเราสร้างพลังด้านบวกให้คนอื่น เราก็จะได้พลังด้านบวกนั้นกลับคืนมา
การทำตัวหลุดโลกบ้างเป็นบางครั้ง เช่นการเต้นแบบสุดเหวี่ยงในผับ หรือการถ่ายเซลฟี่ตัวเองแบบตลกๆ ก็ช่วยให้คุณมีความสุขได้ง่ายๆ
__________________________________________________________________________________
6.หากเป็นปัญหาความเครียดเรื้อรัง และร้ายแรงไปสู่ภาวะซึมเศร้าควรปรึกษาแพทย์
ความเครียดที่สะสมมานาน ไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ และลุกลามไปจนเป็นภาวะซึมเศร้า ก็ควรไปปรึกษาเเพทย์ หรือสายด่วนสุขภาพจิต
สะมาริตันส์ http://www.samaritansthai.com/
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=1054
_________________________________________________________________________________