ถ้าพูดถึงการทำงาน หลายๆคนน่าจะคาดหวังกับการได้สมัครงานใกล้บ้าน ได้ทำงานที่อยู่ใกล้บ้าน หรือใกล้ที่พักอาศัย และอาจหมายรวมไปถึงการสมัครงาน work from home เพราะเนื่องจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน และส่งผลให้สุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย แต่ทราบกันไหมว่า ในการหางานใกล้บ้านนั้น ต้องมีเทคนิคอะไรบ้าง ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกเข้าสัมภาษณ์งาน และได้รับงานที่ชื่นชอบ ในเงินเดือนที่ตรงใจ วันนี้เว็บไซต์สมัครงาน Jobmyway จึงอยากพาทุกคนไปดู เทคนิคการทำเรซูเม่ ให้น่าดึงดูดใจ เพื่อใช้ในการสมัครงานใกล้บ้าน ให้ได้งานแบบชิลๆ จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ตามเราไปชมกันเลย
หางานใกล้บ้านยังไงให้ได้งานจริง
จากที่ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่า ในการทำงานใกล้บ้าน ถือเป็นสิ่งที่คนทำงานทุกคนอยากได้ เนื่องจากจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งก็จะส่งผลให้ความต้องการในการหางานใกล้บ้าน มีมากขึ้น และก็จะทำให้การแข่งขันมีสูงขึ้น การสร้างความแตกต่าง ความโดดเด่น และความน่าสนใจให้กับตัวเอง จะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้คุณมีโอกาสได้รับงานใกล้บ้านทำมากขึ้น โดยมีเทคนิคในการเพิ่มความน่าสนใจในการสมัครงานได้ดังต่อไปนี้
1.หางานใกล้บ้าน จากเว็บไซต์สมัครงานที่เชื่อถือได้
ขั้นตอนแรกของการหางานใกล้บ้าน ให้ได้งานจริง และเป็นงานที่เงินเดือนตรงใจเลยก็คือ การหางานจากเว็บไซต์หางานที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่า เหตุใดเว็บไซต์สมัครงานถึงส่งผลกับการสมัครงาน คำตอบก็คือ ถ้าเราเลือกเว็บไซต์สมัครงานที่มีความน่าเชื่อถือ ที่มีการอัปเดตหน้าเว็บไซต์ ลงบทความ และข่าวสารต่างๆอยู่เสมอ ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้กับองค์กร หรือบริษัทต่างๆ ให้เข้ามาลงประกาศรับสมัครงานมากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลให้คนทำงาน สามารถมีตัวเลือกบริษัทในการสมัครงานมากขึ้น รวมถึงยังสามารถส่งใบสมัครงานไปในองค์กรที่หลากหลายได้มากขึ้นอีกด้วย และยังสามารถค้นหางานใกล้บ้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากเข้าไปสมัครงานในเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ มีจำนวนประกาศรับสมัครงานที่น้อย หรือไม่มีการอัปเดตประกาศรับสมัครงาน ก็อาจส่งผลให้ผู้สมัครงาน มีโอกาสที่จะได้รับงานน้อยลง รวมถึงประกาศรับสมัครงานเหล่านั้น อาจเป็นประกาศเก่า ที่บริษัทได้คนทำงานแล้ว ซึ่งนั่นก็อาจทำให้คุณเสียเวลาในการสมัครงานไปอย่างน่าเสียดายนั่นเอง
2.ทำเรซูเม่ และพอร์ตสะสมผลงานให้น่าสนใจ
ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือ การทำเรซูเม่ และพอร์ตสะสมผลงานให้มีความน่าสนใจ เนื่องจากองค์กร หรือ HR จำเป็นที่จะต้องทราบถึงความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์ในการทำงานของผู้สมัครงานภายในเวลาสั้นๆ การจัดทำผลงานและประวัติการทำงาน จะช่วยให้องค์กรสามารถมองเห็นถึงความสามารถ ผลงาน และทักษะของคนทำงานได้ดี และช่วยให้ผู้สมัครงานมีโอกาสที่จะถูกเรียกเข้าสัมภาษณ์งานได้มากกว่าคนที่ไม่มีเรซูเม่ และพอร์ตสะสมผลงานนั่นเอง
2.1 เทคนิคการทำเรซูเม่ให้น่าสนใจ
-รวบรวมประวัติส่วนตัวให้ครบ
ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ไลน์ รวมไปถึงประวัติการศึกษาโดยย่อ ทักษะในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ทักษะ Hard Skill หรือทักษะ Soft Skill ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้องค์กร สามารถรู้จักผู้สมัครงานได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
-เรียงลำดับประวัติการทำงานให้กระชับ
สิ่งต่อมาที่ควรระบุลงในเรซูเม่เลยก็คือ ประวัติในการทำงาน และการฝึกงานต่างๆ โดยควรเรียงลำดับตามปี โดยนำปีล่าสุดใส่ไว้ด้านบนสุด รวมถึงควรระบุชื่อบริษัท และตำแหน่งงานที่ทำ โดยสิ่งนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถรับรู้ และเข้าใจได้ว่า คุณมีประสบการณ์ในการทำงานด้านใดมาบ้างแล้วนั่นเอง
-จัดรูปแบบหน้าให้อ่านง่าย สวยงามตามความเหมาะสม
สิ่งต่อมาเลยก็คือ การจัดวางรูปแบบหน้าให้มีความสวยงาม อ่านง่าย ดูสะอาดตา และเลือกดีไซน์ให้เหมาะกับสายงานที่ทำ เช่น ถ้าคุณต้องทำงานในสายงานที่จำเป็นต้องใช้ความน่าเชื่อถือ อย่างอาชีพหมอ ทนายความ หรือครู ก็จำเป็นที่จะต้องใช้รูปแบบที่มีความเรียบ เลือกใช้สีและฟอนต์ที่สุภาพ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ส่วนถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานในด้านสายงานออกแบบ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ก็ควรเลือกใช้รูปแบบเรซูเม่ที่สวยงาม ดูทันสมัยนั่นเอง
-ตรวจสอบข้อมูลและคำผิด
สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่หลายๆคนมองข้ามไป แต่อันที่จริงแล้ว การตรวจสอบข้อมูลและการสะกดคำให้ถูกต้อง จะช่วยให้คุณมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น รวมถึงป้องกันความผิดพลาดของข้อมูล เช่นข้อมูลช่องทางการติดต่อกลับ อย่างเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์
2.2 เทคนิคการทำพอร์ตสะสมผลงานให้น่าสนใจ
-รวบรวมผลงานที่เคยทำมาให้ครบ
ขั้นตอนแรกเลยก็คือการรวบรวมผลงานที่เคยทำเอาไว้มาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ คลิปวิดีโอ หรือไฟล์ต่างๆ เพื่อใช้ในการการันตีว่า ผู้สมัครงานเคยทำงานในด้านนี้จริงและมีผลงานในการทำงานจริง
-คัดเลือกผลงานที่ภูมิใจที่สุดเอาไว้
ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือ การคัดเลือกผลงานที่มีความภาคภูมิใจ หรือชื่นชอบเอาไว้ เพื่อนำมาคัดเลือกลงบนพอร์ตสะสมผลงาน หรือนำมาใส่เอาไว้ในหน้าแรกๆ เนื่องจากในการลงประกาศรับสมัครงานแต่ละครั้ง อาจมีผู้สมัครงานเป็นจำนวนมาก องค์กรก็อาจจะจำเป็นต้องใช้เวลาสั้นๆ ในการเปิดดูข้อมูลต่างๆของคุณ ซึ่งถ้านำผลงานที่ดีที่สุดเอาไว้อันดับแรกๆ ก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้มากขึ้น
-จัดวางผลงานตามหมวดหมู่ให้อ่านง่าย
ขั้นตอนต่อมาคือการจัดเรียงผลงานต่างๆเอาไว้ให้เป็นระเบียบและเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้หาง่าย และสามารถเปิดอ่านได้ง่ายขึ้น
-ตกแต่งพอร์ตสะสมผลงานให้สวยงามตามความเหมาะสม
ต่อมาคือการตกแต่งความสวยงามของพอร์ตสะสมผลงาน ให้มีความสวยงามตามความเหมาะสมของแต่ละอาชีพ โดยควรเลือกรูปแบบที่อ่านง่าย เป็นทางการ และเลือกใช้สีโทนสุภาพ สำหรับการสมัครงานที่จำเป็นต้องใช้ความน่าเชื่อถือ ส่วนสายงานด้านที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ก็ควรออกแบบรูปแบบให้มีความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงไปด้วยจะดีที่สุด
-อย่าลืมจัดทำไฟล์ออนไลน์
นอกจากการทำเรซูเม่ และพอร์ตสะสมผลงานแบบพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มแล้ว การอัปโหลดไฟล์ลงบน Google Drive ก็จะช่วยให้ผู้สมัครงานสามารถจัดส่งผลงานต่างๆไปทางอีเมล์ได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น และช่วยให้องค์กรมีความสะดวกในการเปิดอ่านมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งการอัปโหลดข้อมูลต่างๆลงบนไดรฟ์ออนไลน์จะช่วยให้คนที่สมัครงาน Work From Home สามารถหางานได้ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสในการได้รับงานมากขึ้นอีกด้วย
3.เขียนจดหมายสมัครงานให้เตะตา HR
การเขียนจดหมายสมัครงานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณมีความโดดเด่นกว่าผู้สมัครงานคนอื่น โดยควรระบุประวัติส่วนตัวคร่าวๆ ความสามารถ ประสบการณ์ และทักษะในการทำงานเอาไว้ รวมถึงระบุวันที่พร้อมเริ่มงาน เป้าหมายในอาชีพ การมองตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้าเอาไว้ เพื่อช่วยให้องค์กร สามารถเข้าใจ และรู้จักผู้สมัครงานได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ข้อดีของการทำงานใกล้บ้าน
ทราบกันไหมว่า การทำงานใกล้บ้าน มีข้อดีอย่างไร และทำไมคุณถึงควรมองหางานใกล้บ้าน ตามไปดูกัน
-ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ข้อดีข้อแรกเลยก็คือ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งคนทำงานหลายๆคนน่าจะทราบกันดีว่า ถ้าต้องทำงานในบริษัทที่อยู่ไกลจากที่พัก ก็จำเป็นต้องเสียค่าเดินทางเป็นจำนวนเงินมหาศาล โดยเฉพาะคนที่ไม่มีรถประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าวินมอเตอร์ไซค์ ค่ารถโดยสารสาธารณะ อย่างรถไฟฟ้า เรือข้ามฟาก หรือรถเมล์ ส่วนใครที่รถส่วนตัว ก็อาจต้องเสียค่าน้ำมันในราคาที่สูง และอาจทำให้เงินเก็บลดลง การทำงานใกล้บ้าน จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และช่วยให้คุณมีเงินเก็บมากขึ้นอย่างแน่นอน
-ประหยัดเวลาในการเดินทาง
สิ่งต่อมาคือการประหยัดเวลาในการเดินทาง ถ้าหากต้องเสียเวลาตื่นแต่เช้า เพื่อไปเจอรถติด ใช้เวลาอยู่ในที่ทำงาน แล้วก็เสียเวลาในการเดินทางกลับบ้านอีกเป็นชั่วโมงๆ ก็อาจทำให้คุณเกิดความเบื่อหน่าย และอาจทำให้ร่างกายไมไ่ด้พักผ่อน การทำงานใกล้บ้าน จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางและอยู่บนท้องถนนมากขึ้น
-สุขภาพกาย และสุขภาพจิตดีขึ้น
เมื่อมีเวลามากขึ้น ก็จะมีเวลาในการพักผ่อนร่างกายและจิตใจมากขึ้น ซึ่งอาจจะมีเวลาออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมต่างๆกับครอบครัวได้มากขึ้น ก็จะส่งผลให้สุขภาพกายและใจดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
-ลดโอกาสในการหมดไฟในการทำงาน
เมื่อมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น และมีเวลาในการทำสิ่งที่ชอบมากขึ้น ก็จะสามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดภาวะหมดไฟในการทำงานได้เช่นเดียวกัน
ก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความการทำเรซูเม่ ให้สมัครงานใกล้บ้านได้แบบชิลๆ ที่เว็บไซต์ Jobmyway ได้นำมาให้คนหางาน ได้นำไปทำเรซูเม่ตามกัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับงานใกล้บ้านได้จริง และการันตีได้เลยว่าจะได้รับเงินเดือนที่ตรงใจอย่างแน่นอน ในครั้งหน้า เราจะพาคุณไปชมบทความดีๆอะไรอีก อย่าลืมติดตามกัน
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่
เคล็ด (ไม่) ลับ เพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง
วิธีแก้ ‘‘ เบื่อวันจันทร์ ’’ ทำยังไงดี
ถ้าไม่มีเรา งานจะเดินต่อได้ไหม
จิตวิทยา กับ การทำงาน เกี่ยวข้องกันอย่างไร