ถ้าพูดถึงการ สมัครงาน work from home ในยุคนี้ หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เนื่องจากช่วงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ได้เกิดภาวะโควิด 19 กระจายไปทั่วโลก ทำให้หลายๆบริษัทจำเป็นที่จะต้องให้คนทำงาน นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อลดโอกาสในการสัมผัสโรค จนในปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าภาวะโควิด 19 จะค่อยๆดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังคงเปิด รับสมัครงาน work from home อยู่ วันนี้ #jobmyway จึงอยากพาทุกคนไปดูกับ 10 เทคนิค สมัครงาน work from home ยังไงให้ได้งานชัวร์ ตามไปดูกันเลย
1. สมัครงาน work from home ให้เหมาะกับตัวเอง
ขั้นตอนแรกของการสมัครงานแบบ WFH หรือการทำงานที่บ้านให้มีโอกาสได้งานมากที่สุดเลยก็คือ การเลือกสมัครงาน ที่เหมาะกับความรู้ ความสามารถของตัวเอง และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต เช่น ถ้าหากคุณมีความสามารถในการทำการตลาดออนไลน์ และสามารถทำภาพกราฟิกดีไซน์ได้ แต่จำเป็นต้องใช้เวลาที่อยู่ที่บ้านในการดูแลลูก โดยถ้าหากมีงาน Work From Home ให้เลือกอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่การตลาดออนไลน์ ที่อาจต้องมีการประชุมงานออนไลน์ทุกวัน กับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ออกแบบกราฟิก ที่มีการประชุมงานออนไลน์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง คุณก็อาจเหมาะกับงานในตำแหน่งกราฟิกดีไซน์มากกว่า เพราะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตมากกว่า เนื่องจาก ถ้าเลือกในตำแหน่งงานแรก เมื่อต้องเข้าสัมภาษณ์งาน ผู้สัมภาษณ์ก็อาจคิดได้ว่า ตัวของเราอาจไม่มีเวลามากพอในการประชุมงาน และไม่เหมาะกับการทำงานในตำแหน่งนี้นั่นเอง
2.ดูให้ดีว่าเป็น การรับสมัครงาน work from home หรือ Hybrid
หลายๆคนอาจเข้าใจกับการทำงานแบบ work from home กันมาพอสมควรแล้ว แต่จะมีซักกี่คนที่จะทราบว่า มีการทำงานอีกแบบหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่เช่นเดียวกัน คือการทำงานแบบ Hybrid คือการทำงานที่บ้าน สลับกับการเข้าออฟฟิศ อาจมีการเข้าออฟฟิศ สัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง ไปจนถึงการเข้าออฟฟิศเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งถ้าคุณไม่สะดวกที่จะเข้าไปทำงานในออฟฟิศ ก็จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลก่อนการสมัครงานให้ดี ไม่เช่นนั้น ผู้สัมภาษณ์อาจไม่ได้คัดเลือกคุณเข้าไปในการสัมภาษณ์งานครั้งต่อไป
3.ทำเรซูเม่ และพอร์ตผลงานให้น่าสนใจ
อีกหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัทที่ รับสมัครงาน work from home สนใจและเลือกคุณเข้าทำงานมากขึ้นเลยก็คือ การทำ Resume และ Portfolio สะสมผลงานให้น่าสนใจ โดยการทำ Resume นั้น ควรที่จะมีการออกแบบให้เหมาะกับสายงานของคุณ เช่น ถ้าหากคุณเป็นนักบัญชี หรือทนายความ ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ก็จำเป็นที่จะต้องออกแบบเรซูเม่สมัครงาน ให้เรียบ อ่านง่าย และมีความเป็นระเบียบ งดการใช้สีฉูดฉาด
ส่วนถ้าหากคุณเป็นคนที่ทำงานในสายงานการออกแบบ หรืองานบันเทิงต่างๆ ก็จำเป็นที่จะต้องออกแบบเรซูเม่ ให้มีความสวยงาม มีสีสันที่น่าสะดุดตา เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ผู้สัมภาษณ์ รวมถึงการจัดทำพอร์ตผลงาน ก็ควรที่จะมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ให้เป็นระเบียบ อาจมีการคัดแยกใส่ Google Drive แบ่งเป็นโฟลเดอร์เอาไว้ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา รับรองได้เลยว่า เมื่อพอร์ตผลงาน และเรซูเม่ของคุณน่าสนใจ คุณจะได้รับการติดต่อจากผู้รับสมัครงานอย่างแน่นอน
4.อย่าลืมเขียนจดหมายแนะนำตัว
อีกหนึ่งเทคนิคที่หลายๆคนอาจมองข้ามไปกับการ สมัครงาน work from home เลยก็คือ การเขียนจดหมายแนะนำตัว ที่จะต้องส่งมอบไปพร้อมกับพอร์ตและเรซูเม่ โดยการเขียนจดหมายแนะนำตัว จะช่วยให้บริษัทที่รับสมัครงาน สามารถรู้จักตัวตนของคุณมากขึ้น และช่วยเพิ่มโอกาสในการถูกเลือกเข้าทำงานมากขึ้น โดยในจดหมายสมัครงาน ควรเลือกใช้คำสุภาพ และเป็นทางการ มีการเกริ่นแนะนำตัวคร่าวๆ มีความสามารถในการทำงานด้านใดบ้าง และอย่าลืมบอกเหตุผลในการสมัครงานในตำแหน่งนี้
5.ใส่ข้อมูลการติดต่อให้ครบ
อีกหนึ่งเหตุผลที่หลายๆคนอาจสงสัยว่า ทำไมเมื่อสมัครงาน work from home ไปแล้ว ซักกี่ที่ ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววของการถูกเรียกเข้าสัมภาษณ์งาน หรือติดต่อกลับใดๆ นั่นก็อาจหมายความว่า คุณอาจลืมที่จะใส่ข้อมูลในการติดต่อกลับลงไปนั่นเอง โดยควรใส่ข้อมูลในการติดต่อกลับ ทั้งในจดหมายแนะนำตัว เรซูเม่ และโปรไฟล์ของเว็บไซต์ โดยอาจเลือกใส่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ที่เลือกใช้ชื่อที่น่าเชื่อถือ หรือที่อยู่พอสังเขป ให้ผู้รับสมัครงานทราบว่า มีที่อยู่ในจังหวัดอะไร หรืออาจเพิ่มการใส่ช่องทางการติดต่ออย่าง ไลน์ไอดี หรือเว็บไซต์ส่วนตัวลงไปด้วยก็สามารถทำได้
6.อัปเดตโปรไฟล์บนเว็บไซต์สมัครงานสม่ำเสมอ
ถ้าหากคุณมีบัญชีโปรไฟล์อยู่บนเว็บสมัครงาน อย่าลืมเข้าไปอัปเดตข้อมูลส่วนตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ ประวัติการทำงาน ทักษะการทำงานต่างๆ เพื่อให้ผู้ว่าจ้าง สามารถเข้ามาดูข้อมูลเหล่านี้ได้ และสามารถรับรู้ได้เบื้องต้นว่า ตัวของคุณมีข้อมูลใดที่อาจเหมาะกับการทำงานกับบริษัทนั้นๆบ้าง
7.เรียกเงินเดือนที่เหมาะกับความสามารถ
ในการทำงานแบบ Work From Home บริษัทที่ รับสมัครงาน work from home นั้น อาจมีการกำหนดฐานเงินเดือนที่เหมาะสมกับความสามารถของคนทำงานเอาไว้แล้ว ซึ่งอาจมีการเขียนระบุเงินเดือนที่สามารถให้ได้ หรืออาจไม่มีการระบุเงินเดือนเอาไว้ และแจ้งเอาไว้ว่า เป็นเงินเดือนตามความสามารถ คุณจึงควรเรียกเงินเดือน ให้เหมาะสมกับความสามารถ โดยอาจมีการอ้างอิงไปกับประวัติของการฝึกงาน การทำงานในองค์กรที่น่าเชื่อถือ หรือแม้แต่การอ้างอิงจากผลงาน หรือความสำเร็จที่เคยได้ทำเอาไว้ เช่น เคยชนะการประกวดการออกแบบ ได้รับรางวัลที่ 1 , การได้รับใบประกาศนียบัตร รับรองการเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะในการทำงาน สิ่งเหล่านี้ก็จะสามารถช่วยให้คุณ เรียกเงินเดือนได้เหมาะสมกับความสามารถ และบริษัทที่รับสมัครงานก็จะยินดีที่จะรับคุณเข้าทำงาน และพรัอมจ่ายเงินเดือนที่หมาะสมได้อย่างแน่นอน
8.บอกจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองให้ได้
อีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และช่วยให้ผู้รับสมัครงานเลือกคุณเข้าทำงานมากขึ้นเลยก็คือ การบอกจุดแข็ง และจุดอ่อนของการทำงานของตัวเองให้ได้ โดยอาจระบุลงไปในการเขียนจดหมายสมัครงาน เพื่อให้ผู้รับสมัครงาน สามารถเข้าใจได้ว่า ตัวของคุณนั้น มีจุดแข็ง และจุดอ่อนอย่างไรในการทำงาน เช่น ระบุจุดแข็งในการทำงาน อย่างการทำงานที่รวดเร็ว สามารถจบงานได้ในระยะเวลาอันสั้น มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น เป็นต้น ส่วนจุดอ่อนในการทำงาน อาจระบุเป็นข้อมูลเป็นความจริง และอาจใส่วิธีการแก้ไขจุดอ่อนในการทำงานของตัวเองลงไป เช่น เป็นคนที่พูดน้อย แต่ในปัจจุบันกำลังฝึกฝนเพิ่มทักษะการพูด และการสื่อสารอยู่ เป็นต้น
9.อย่าลืมใส่ Hard Skill และ Soft Skill
ทักษะการทำงาน อย่าง Hard Skill และ Soft Skill เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้กับการทำงานแบบ Work From Home และการทำงานในรูปแบบอื่นๆ ในช่วงปี 2023 เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทในปัจจุบัน ได้เริ่มให้ความสำคัญกับทักษะเหล่านี้มากขึ้น เพื่อทำให้การทำงานสามารถสำเร็จลุล่วง และได้รับงานที่มีคุณภาพการ สมัครงาน work from home จึงจำเป็นที่จะต้องระบุทักษะ Hard Skill และ Soft Skill เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น
Hard Skill เช่น
● ทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูล
● ทักษะในการใช้งานโซเชียลมีเดีย
● ทักษะในการใช้งานคอมพิวเตอร์ และระบบคลาวด์
● ทักษะในการออกแบบเบื้องต้น
● ทักษะในการใช้ภาษาต่างประเทศ
Soft Skill เช่น
● ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
● ทักษะในการรับผิดชอบการทำงาน
● ทักษะในการสื่อสาร
● ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
● ทักษะในการทำงานแบบทีม
● ทักษะในการจัดการอารมณ์
10.ส่งใบสมัครงาน work from home ให้หลากหลาย
การสมัครงานแบบ Work From Home ข้อดีคือเป็นการทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปข้างนอก แต่ข้อเสียข้อใหญ่เลยก็คือมีคู่แข่งในการสมัครงานเยอะ เนื่องจากเป็นงานที่คนทำงานส่วนใหญ่ต้องการ ผู้สมัครงาน จึงควรต้องมองหาบริษัทที่เปิดรับสมัครงานในตำแหน่งที่ต้องการเอาไว้หลายๆที่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกเข้าสัมภาษณ์ที่มากขึ้น โดยอาจเลือกส่งใบสมัคร
ก็จบลงไปแล้วกับ 10 เทคนิคที่ Jobmyway แนะนำให้ใช้ในการสมัครงาน เพื่อให้บริษัทที่ รับสมัครงาน work from home สนใจในตัวของคุณมากขึ้น และถ้าคนทำงานสามารถทำได้ตามนี้ จะได้ทำงานที่ชอบ และได้เงินเดือนที่ใช่ได้อย่างแน่นอน ในครั้งหน้าเราจะพาไปชมเทคนิคอะไรดีๆอีก อย่าลืมติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำงาน และการหางานทำได้ที่ Jobmyway หรือเพจ Jobmyway
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://mitsurma.com/important-soft-skills-hard-skills/
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่
เทคนิค เสริมดวงให้สมัครงาน แล้วได้งานชัวร์!
รวม Trend ใหม่ที่วัยทำงานไม่ควรพลาด ในปี 2023
รวมแหล่งออกกำลังกาย กทม. แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ
วิธีทำบุญเสริมดวง ให้ได้งานปังๆ
30 ช่องออกกำลังกายมาแรง หุ่นฟิตได้แม้อยู่ที่บ้าน