อัพเดทข่าว

      การทำงาน และใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงของประเทศไทย อย่างกรุงเทพมหานคร ถือเป็นเรื่องยากพอสมควร สำหรับคนที่มีฐานเงินเดือนขั้นต่ำ เพราะต้องเจอกับค่าครองชีพที่สูง รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆมากมาย ที่ส่งผลให้เงินเดือนบางเดือนไม่เหลือเก็บ หรือบางเดือนอาจจะไม่เหลือใช้เลยด้วยซ้ำ คำถามคือ จะทำอย่างไร ให้ใช้ชีวิตในกรุงเทพได้อย่างสบายๆ และมีเงินเหลือเก็บ โดยวันนี้เรารวบรวมมาให้ลองทำตามดูกันค่ะ

ทำบัญชีรายรับรายจ่าย

การทำบัญชี รายรับ - รายจ่าย บางคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น แต่จริงๆแล้วการที่บันทึกการใช้จ่ายของตัวเรา จะทำให้เราเห็นว่าเรามีระเบียบในการใช้เงินมากแค่ไหน บางครั้งอาจจะใช้เงินโดยไม่ได้คิดอะไร ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ฉะนั้น การเขียนบันทึกรายรับ รายจ่าย จะช่วยให้เราควบคุมพฤติกรรมการใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ดีมากขึ้น
___________________________________________________________________________________

ใช้บัตรเครดิตให้เป็น

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า บัตรเครดิตก็เป็นอีก 1 ตัวการที่ทำให้หลายๆคนมีหนี้พอกพูน จนไม่สามารถใช้คืนได้หมด แต่ถ้าเราเลือกใช้บัตรเครดิตให้เป็น ปัญหาเหล่านั้นก็จะไม่เกิด เพราะข้อดีของบัตรเครดิตคือ ทำให้เราสามารถซื้อสินค้าและบริการได้กรณีพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น การผ่อน 0% ,การแลกคะแนนสะสม,การได้เครดิตเงินคืน หรือแม้แต่การลดราคาสินค้าและบริการ แบบที่เงินสดไม่สามารถให้เราได้ แต่การใช้บัตรเครดิตต้องมีระเบียบในการใช้ อาจะตั้งกฏกับตัวเองไว้เลยว่า ให้ใช้ได้เฉพาะสิ่งของที่จำเป็น และต้องผ่อนจ่ายคืนตรงตามเวลา เพียงเท่านี้ ก็จะไม่เกิดปัญหาหนี้ท่วมตัวแน่นอน
___________________________________________________________________________________

เลือกทำงานใกล้ที่พัก

ใครที่ได้ที่ทำงานใกล้ที่พัก ถือเป็นโบนัสในขีวิตอย่างหนึ่ง สำหรับคนกรุงเทพมหานคร เพราะด้วยสภาพการจราจรที่ติดขัด ทำให้หลายๆคนต้องตื่นแต่เช้า เสียเวลาไปกับการนั่งรถ รวมถึงค่าเดินทางที่สูงลิ่ว เดือนๆหนึ่งตกหลายพันเลยทีเดียว บางคนก็เลือกที่จะนั่งรถเมล์ แต่ก็ต้องแลกด้วยเวลาในขีวิตที่เสียไป บางคนเลือกที่จะใช้บริการรถเเท็กซี่ ,มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงตามมา เช่น บ้านอยู่ที่ฝั่งธน แต่ได้งานทำอยู่ที่รัชดา ถ้าเลือกนั่งรถไฟฟ้า BTS ต้องเสียค่าบริการ ขาไป 44 บาท เมื่อถืงสถานี อาจจะมีค่ามอเตอร์ไซค์รับจ้างอีกประมาณ 30-40 บาท กว่าจะถึงที่ทำงาน รวมค่าเดินทาง ขาไป - กลับ ประมาณ 168 บาท ต่อวัน คิดเป็น 3,528 บาท ต่อเดือน

แต่ถ้าเลือกที่จะทำงานใกล้บ้าน ก็จะสามารถประหยัดเงินไปได้อีกมาก หรือถ้าเลือกเช่าห้องพักราคาไม่แพงอยู่ อาจจะหาเพื่อนร่วมห้องมาช่วยหารค่าห้องพัก จะทำให้เหลือเงินเก็บ และมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นด้วย
___________________________________________________________________________________

วางแผนการใช้เงินฟุ่มเฟือย

การประหยัดเงิน ไม่ได้แปลว่าคุณห้ามมีความสุขกับชีวิตเลย ไม่งั้นชีวิตเราก็ไม่ต่างอะไรกับเครื่องจักร ที่ทำงานไปทุกวัน บางทีอาจจะต้องใช้เงินไปกับสิ่งฟุ่มเฟือย เพื่อสร้างความสุขให้กับตัวเองบ้าง เช่น การดูหนัง ,ซื้อเสื้อผ้า ,ซื้อเครื่องสำอาง หรือแม้แต่การออกไปปาร์ตี้สังสรรค์ แต่ในการใช้เงินฟุ่มเฟือยนั้น ก็ตัองมีการวางแผน เพราะจะทำให้เราสามารถกำหนดขอบเขตของจำนวนเงินนั้นๆ ไม่ให้มากจนเกินไป หรือใช้เงินไปกับสิ่งฟุ่มเผือยบ่อยจนเกินไป เช่น ใน 1เดือน เราสามารถซื้อเครื่องสำอางได้ 1 ชิ้น หรือ ใน 1 เดือน เราสามารถออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆได้ 1 ครั้ง โดยมีงบครั้งละไม่เกิน 1 พันบาท เพียงเท่านี้คุณก็สามารถมีความสุขกับชีวิต โดยยังมีเงินเก็บอยู่ได้แบบสบายๆ
___________________________________________________________________________________

ทำอาหารทานเอง

อย่างที่เราทราบกันดี ว่าค่าครองชีพอย่างอาหารในกรุงเทพมหาคร มีราคาที่สูง ตีราคาทั่วไป ตกมื้อละ 45-70 บาท ใน 1 วัน เราทานอาหาร 3 มื้อ ก็ตกประมาณวันละ 180 บาท แต่ถ้าเราสามารถประกอบอาหารได้เอง จะเหลืออยู่ที่ มื้อละ 30-35 บาท ยิ่งถ้าคุณอาศัยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ราคาค่าอาหารคุณก็จะยิ่งถูกลงไป
___________________________________________________________________________________

เลือกซื้อของในราคาส่ง

การเลือกซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นของกิน หรือของใช้ ถ้าหากเลือกซื้อแบบแพค ในราคาส่ง จะได้จำนวนสินค้าที่มากกว่า ในราคาที่ถูกกว่าซื้อแบบชิ้นเดี่ยวๆ เช่น นม 1 กล่อง ราคา 15 บาท แต่ถ้าเลือกซื้อเป็นแพค 6 กล่อง จะเหลือกล่องละ 13 บาท หรือเลือกซื้อสินค้าที่จัดโปรโมชั่น 1 แถม 1 ในการเสียเงินก้อน อาจจะรู้สึกว่าเป็นจำนวนเงินที่เยอะ แต่ถ้าได้ลองมาหารดู ในราคาต่อชิ้น คุณจะได้สินค้าที่ถูกกว่า อย่างแน่นอน
___________________________________________________________________________________

เปรียบเทียบราคาสินค้า

ในการเลือกซื้อสินค้า หรือบริการ ถ้ามีการเปรียบเทียบราคาสินค้า,ปริมาณ กับหลายๆยี่ห้อ ก็จะทำให้เราเลือกซื้อสินค้า และบริการที่คุ้มราคาทีสุด
___________________________________________________________________________________

เริ่มออมเงินทีละนิด

เชื่อว่าหลายคน คิดว่าการออมเงินเป็นสิ่งที่ยาก แต่ถ้าคุณได้เริ่มจากจำนวนเงินทีละน้อยๆ แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนเงิน ค่อยๆเก็บไปเรื่อยๆ คุณจะเริ่มเห็นจำนวนเงินที่มากขึ้น และต้องการเก็บมากขึ้น คนที่ไม่เคยออมเงินเลย อาจจะเริ่มจากหยอดกระปุก วันละ 10 - 20 บาท และค่อยๆเพิ่มจำนวนเงินอาทิตย์ละ 5-10 บาท หรือจะเลือกใช้การเก็บเงินยอดฮิต อย่างการเก็บแบงค์ 50 ก็เป็นอีก 1 วิธีที่ช่วยให้การออมเงินของคุณเป็นเรื่องสนุก และเห็นจำนวนเงินเร็วเช่นกัน
___________________________________________________________________________________

เลือกการฝากเงินแบบประจำ

เป็นข้อบังคับในการฝากเงินที่ง่ายที่สุด คือการฝากประจำ เพราะการฝากประจำมีระยะเวลาในการฝาก ต้องฝากอย่างสม่ำเสมอ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ถนัดในการออมแบบหยอดกระปุก และดอกเบี้ยในการฝากประจำนั้นสูงกว่าดอกเบี้ยของการฝากแบบธรรมดา

อัพเดตล่าสุดเมื่อ : 14 กันยายน 2565
ผู้อัพเดต : petchzst