หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นคนหางาน อยากสมัครงาน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงาน ที่อยากเปลี่ยนงาน และเพิ่มเงินเดือน หรือเป็นคนที่เพิ่งเรียนจบระดับปริญญาตรี ที่กำลังเข้าเว็บสมัครงาน เพื่อมองหางานแรก ทราบกันไหมว่า การทำเรซูเม่ และพอร์ตหางาน เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะทำให้คุณมีโอกาสถูกเลือกเข้าทำงาน แล้วทราบกันไหมว่า ควรทำเรซูเม่ และพอร์ตผลงานอย่างไร ให้น่าสนใจ ดูเตะตา และมีโอกาสเป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือกให้เข้าสัมภาษณ์งานกันบ้าง? วันนี้ #Jobmyway เลยอยากพาไปดูเทคนิคการทำ Portfolio และ Resume ให้ได้งานจริงกัน ตามไปดูกันเลย
เทคนิคการทำ Resume ให้ปัง
1.เลือกรูปแบบจากสายงาน
ขั้นตอนแรกในการทำเรซูเม่เลยก็คือ การเลือกรูปแบบเรซูเม่ จากสายงานที่ทำ เนื่องจากหลายๆคนอาจเกิดปัญหาในการทำเรซูเม่ ที่ไม่เหมาะสมกับสายงาน และอาจถูกปฎิเสธจากบริษัทที่รับสมัครงาน เช่น ในสายงานที่จำเป็นต้องใช้ความน่าเชื่อถือ ก็ควรเลือกเรซูเม่ที่ดูสะอาดตา เลือกใส่ข้อมูลที่มีความสำคัญกับสายงาน งดการใส่งานอดิเรก แถบค่าพลังต่างๆ เพราะจะทำให้เรซูเม่ของคุณดูน่าเชื่อถือน้อยลง แต่ในกรณีที่ต้องการหางานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง อย่างงานกราฟิกดีไซน์ อาจเลือกใช้รูปแบบเรซูเม่ที่มีการใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไป เพื่อความสวยงาม เพราะถ้าหากเลือกใช้เรซูเม่ที่ดูเป็นทางการมากจนเกินไป ก็อาจไม่เกิดความน่าสนใจ แต่แนะนำว่า ควรเลือกใช้สีที่ดูเรียบหรู มากกว่าการเลือกใช้สีที่ดูฉูดฉาดจะดีที่สุด
2.เลือกใส่รูปให้เหมาะสม
การเลือกรูปภาพลงในเรซูเม่ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจาก คนหางานกรุงเทพ หรือ คนหางานนนทบุรี หลายๆคน อาจเลือกใช้รูปภาพที่ถ่ายเล่นทั่วไป ในการสมัครงาน แต่หากเป็นงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ อย่างงานบัญชี ทนายความ ครู ก็อาจดูไม่ค่อยเหมาะสม และส่งผลให้คุณดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าที่ควร จึงควรเลือกใช้รูปติดบัตรหน้าตรง หรือรูปที่ถ่ายใส่ชุดครุย ในวันสำเร็จการศึกษา จะดีที่สุด
3.ใส่ข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน
ในหลายๆครั้ง คนหางานเชียงใหม่ คนหางานระยอง และคนหางานในทุกๆจังหวัด อาจรู้สึกสงสัยว่า ตัวเราเองนั้น มีคุณสมบัติในการทำงานที่ครบถ้วน แต่ทำไม เมื่อส่งเรซูเม่ไปแล้ว กลับไม่มีการติดต่อกลับจากบริษัทที่ หาคนทำงานเลย นั่นอาจเป็นเพราะ คุณอาจลืมใส่ข้อมูลส่วนตัว ที่สามารถติดต่อกลับได้ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล์ หรือช่องทางการติดต่ออื่นๆ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่หลายๆคนอาจลืมใส่ไปนั่นเอง
4.อย่าลืมใส่ประวัติในการทำงาน
สำหรับคนทำงาน ที่เคยมีประวัติในการทำงานแล้ว อย่าลืมระบุวัน เดือน ปี ที่เคยเข้าทำงาน จนถึงวันที่สิ้นสุดการทำงาน , ระบุชื่อบริษัทที่เคยทำงาน และอย่าลืมระบุหน้าที่ที่เราเคยทำ รวมถึงการเขียนบรรยายหน้าที่ในการทำงานโดยย่อลงไปด้วย เพื่อให้ผู้คัดเลือก สามารถอ่านและเข้าใจในขอบเขตหน้าที่ ที่เราเคยทำมาก่อน ว่าเราเคยได้รับผิดชอบในงานส่วนใดบ้างนั่นเอง ส่วนคนที่เพิ่งเรียนจบใหม่ ก็สามารถใส่สถานที่ ที่เคยฝึกงานลงไปได้ เช่นเดียวกัน
5.ใส่ความสามารถ Hard Skill
ทักษะ Hard Skill เป็นทักษะที่มีความสำคัญต่อการทำงานโดยตรง ไม่ว่าจะเป็น ทักษะในการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ฟัง พูด อ่าน เขียน , ทักษะในการทำบัญชีเบื้องต้น , ทักษะในการใช้งานระบบคลาวด์ , ทักษะในการใช้งานโปรแกรม Microsoft Office หรือ ทักษะในการใช้งานโปรแกรม Adobe เป็นต้น เพื่อให้ผู้รับสมัครงานสามารถทราบถึงทักษะในการทำงาน ที่คุณมีอยู่ และช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกเข้าทำงานมากขึ้นนั่นเอง
6.อย่าลืมใส่ Soft Skill
นอกจากทักษะ Hard Skill แล้ว Soft Skill ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คนหางานไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเป็นทักษะที่แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานโดยตรง แต่ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้การทำงานของคุณ สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างดีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า , ทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น , ทักษะในการบริหารเวลา ,ทักษะในการปรับตัว , ทักษะในการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน ,ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ เป็นต้น
7.ทำออกมาให้รองรับทุกช่องทาง
ในการสมัครงาน อาจจำเป็นที่จะต้องทำเรซูเม่ออกมาหลายๆไฟล์ หลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับสิ่งที่แต่ละองค์กรต้องการ เช่น บางองค์กรอาจต้องการไฟล์เรซูเม่ ในรูปแบบของไฟล์ PDF บางองค์กรต้องการในรูปแบบของลิ้งค์ Google Drive หรือบางบริษัทอาจต้องการอ่านเรซูเม่ ในรูปแบบของกระดาษ คนทำงานจึงควรเตรียมเรซูเม่ออกมาหลายๆรูปแบบ เพื่อให้สามารถส่งข้อมูล ให้กับบริษัทที่ต้องการสมัครงาน ได้ทันที
เทคนิคการทำ Portfolio ให้น่าสนใจ
1.เลือกผลงานที่ดีที่สุดของเราออกมา
คนทำงานหลายคน อาจไม่มีการเลือกผลงานที่เคยทำงานมาใส่ในพอร์ตผลงาน ซึ่งอาจทำให้พอร์ตมีผลงานที่มีจำนวนเยอะจนเกินไป อาจส่งผลให้ไฟล์ข้อมูลมีขนาดใหญ่ และทำให้ผู้รับสมัครงานอาจเกิดความไม่สะดวกในการเปิดดูผลงานต่างๆ จึงควรเลือกผลงานที่เคยทำ ที่เรารู้สึกว่าเป็นผลงานที่ชื่นชอบ และรู้สึกว่าน่าสนใจ ออกมาใส่พอร์ตผลงาน จะทำให้ผู้รับสมัครงาน สามารถมองเห็นผลงานที่มีคุณภาพได้ง่ายกว่า
2.จัดทำ Portfolio ให้อ่านง่าย
หลังจากคัดเลือกผลงานที่รู้สึกว่ามีความน่าสนใจ และชื่นชอบแล้วนั้น ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือ การจัดวางพอร์ตผลงาน ให้สวยงาม อ่านง่าย ดูไม่รก สบายตา เพื่อให้ผู้รับสมัครงาน สามารถเข้ามาอ่าน และเห็นผลงานในการทำงานของเราได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
3.แบ่งหมวดหมู่ให้ชัดเจน
หากคุณมีความสามารถในการทำงานหลากหลายอย่าง และมีผลงานที่หลากหลาย ก็ควรแบ่งหมวดหมู่ของผลงานให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกในการอ่าน เช่น หมวดหมู่ในงานออกแบบ หมวดหมู่การเขียน การออกแบบเว็บไซต์ การถ่ายภาพ เป็นต้น เพื่อให้ผู้รับสมัครงาน สามารถเปิดดูข้อมูลที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ทำออกมาให้รองรับทุกช่องทาง
นอกจากเรซูเม่ ที่จำเป็นต้องทำออกมาในหลายๆช่องทางแล้ว พอร์ตผลงาน ก็จำเป็นต้องทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากในบางบริษัท อาจมีความสะดวกในการเข้าดูพอร์ตผลงานในรูปแบบลิ้งค์ บางที่สะดวกในการเข้าดูแบบไฟล์ PDF จึงควรมีพอร์ตผลงานเก็บเอาไว้ในหลายรูปแบบ เพื่อความรวดเร็ว และความสะดวกในการส่งสมัครงาน
5.เลือกใช้สีที่สวยหรู ดูแพง
นอกจากการออกแบบ การจัดวาง ที่ควรมีระเบียบ ช่วยให้อ่านง่ายแล้วนั้น การเลือกใช้สีในการตกแต่งพอร์ตผลงาน ก็เป็นอีกส่วนสำคัญ โดยควรเลือกใช้สีที่ไม่ฉูดฉาด เป็นสีโทนสบายตา เพื่อเพิ่มความสวยงาม และดูน่าเชื่อถือ เช่น สีครีม สีขาว สีดำ สีเทา
6.เรียงข้อมูลผลงานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
นอกจากการแบ่งผลงานตามรูปแบบของงานแล้วนั้น การวางผลงานตามช่วงเวลาในการทำงาน โดยเริ่มจากผลงานในอดีต ไปจนถึงปัจจุบัน จะช่วยให้ผู้รับสมัครงานได้มองเห็นว่า ผลงานของเรามีวิวัฒนาการ และมีการพัฒนา จากอดีต มากขึ้น หรือน้อยลงเพียงใดนั่นเอง
7.เลือกใช้ฟอนต์ให้เหมาะสม
หากการทำงานของคุณ เป็นอาชีพที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ก็ควรเลือกใช้ฟอนต์ที่เป็นทางการ งดการใช้ฟอนต์ที่ดูไม่เหมาะสม ส่วนอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ก็อาจเลือกใช้ฟอนต์ที่มีความทันสมัย และดูน่าเชื่อถือไปพร้อมๆกันได้
8.ใบประกาศต่างๆอย่าลืมใส่
หากคุณมีใบประกาศ รับรอง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสัมมนา การเข้าฝึกอบรบ เพื่อพัฒนาทักษะต่างๆ ก็สามารถนำมาใส่ในพอร์ตผลงานได้เช่นเดียวกัน
ก็จบลงไปแล้วกับบทความ รวมเทคนิคทำเรซูเม่และพอร์ตหางาน ให้ได้งานจริง ที่ เว็บหางาน
Jobmyway ได้นำมาให้คน หางานในกรุงเทพ และคนหางานในจังหวัดอื่นๆ ได้อ่านและนำไปทำตามกันดู เราเชื่อว่า หากคุณทำได้ตามนี้ รับรองได้เลยว่า การสมัครงานของคุณ จะต้องมีคนสนใจ และต้องถูกเลือกเข้าสัมภาษณ์งานได้อย่างแน่นอน ในครั้งหน้าเราจะพาคุณไปชมคอนเทนต์ให้ความรู้อะไรกันอีก อย่าลืมติดตามชมกัน