ทราบกันไหมว่า ในปัจจุบัน นอกจากองค์กรจะต้องการหาคนทำงาน ที่สามารถนั่งทำงานในออฟฟิศแล้วนั้น อีกหนึ่งวิธีการทำงาน ที่ได้รับความนิยมกันมากที่สุด นับตั้งแต่มีไวรัสโควิด-19 เลยก็คือ การทำงานแบบ Work From Home หรือในอีกชื่อคือการทำงานแบบ Remote ที่หลายๆบริษัท ได้เปิดรับสมัครงาน และหลายๆคนอาจพบเจอตำแหน่งงานต่างๆ ที่ระบุเอาไว้ในเว็บหางานกันอยู่ไม่มากก็น้อย แล้วคุณจะทราบได้อย่างไร ว่าการทำงานแบบธรรมดา กับการทำงานแบบ Remote อันไหนจะเหมาะสมกับคุณมากที่สุด? วันนี้ เว็บสมัครงาน Jobmyway จึงอยากพาทุกคนไปทำเช็คลิสต์ 9 ข้อก่อนหางานแบบ Remote Work เอาไว้ในการค้นหาตัวเองให้เจอก่อนสมัครงานใหม่ ตามไปดูกัน
งาน Remote Work คืออะไร?
งาน Remote Work เป็นลักษณะของการทำงาน ที่ผู้ทำงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ โดยไม่ได้จำกัดอยู่ที่ออฟฟิศเหมือนการทำงานแบบเก่าๆ โดยหากคุณเป็นคนหางาน ที่อาจไม่ได้มีถิ่นฐานเดียวกับที่ตั้งของบริษัท เช่นหากคุณเป็นคนหางานในกรุงเทพ แต่ไปพบเจอกับบริษัท ในจังหวัดเชียงใหม่ ก็สามารถทำงานอยู่ที่กรุงเทพได้เลย อันที่จริงแล้ว การทำงานในลักษณะนี้มีมานานแล้ว แต่เพิ่งเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ที่ทำให้หลายคนๆไม่สามารถออกจากบ้านได้
การทำงานแบบ Remote Work มุ่งเน้นไปที่ชิ้นงาน และประสิทธิภาพของผลงานโดยเฉพาะ โดยไม่ได้มุ่งเน้นที่จำนวนชั่วโมงในการตอกบัตรการทำงานเหมือนเมื่อก่อน ทำให้คนทำงานในลักษณะนี้ สามารถบริหารเวลาส่วนตัว กับเวลาในการทำงานได้เป็นอย่างดี มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น เนื่องจากมี Work Life Balance ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ในทั้งตัวคนทำงานเอง และองค์กรนั่นเอง
แต่ในขณะเดียวกัน งาน Remote นี้ก็อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน ฉะนั้นก่อนที่จะเลือกทำงานในแบบ Remote Work นั้น ควรตอบคำถามในเช็คลิสต์เหล่านี้ให้ได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า งานนี้เหมาะกับคุณจริงๆ โดยมีคำถามดังนี้
1.คุณสามารถทำงานคนเดียวได้หรือไม่
การนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ คุณจะได้พบเจอกับเพื่อนร่วมงาน หรือบุคลากรอื่นๆภายในองค์กร ซึ่งนั่นอาจทำให้คุณสามารถมีปฏิสัมพันธ์ ได้พูดคุย ปรึกษา และสอบถามสิ่งต่างๆได้ด้วยการพูดคุยแบบการพบเจอผู้คนจริงๆ แต่สำหรับการทำงานทางไกลแบบ Remote Work คุณจะสามารถติดต่อ และประสานงานกับเพื่อนร่วมงานได้ผ่านทางการใช้ Video Conference และการแชทคุยกันเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งก็อาจจะไม่เหมาะกับคนทำงาน ที่ชื่นชอบในการพบปะผู้คน หรือคนที่เป็น Extrovert ซักเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่เป็น Introvert บอกได้เลยว่า นี่คือสวรรค์ของการทำงานอย่างแท้จริง
2.การทำงานทางไกล ทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือไม่
ถึงแม้คุณจะเป็นคนหางานนนทบุรี หรือเป็นคนหางานระยอง ที่ได้งาน Remote Work ในองค์กรที่อยู่จังหวัดกรุงเทพ ก็ไม่ใช่ปัญหาของการทำงาน เนื่องจากอย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า งานลักษณะนี้ จะโฟกัสไปที่เนื้อหา และประสิทธิภาพของผลงานเท่านั้น ไม่ได้มองถึงเวลาในการทำงานที่จะต้องทำงานเต็มเวลาแบบเก่าๆ แต่คุณจะต้องถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า การทำงานที่ได้รับอิสระแบบนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลดลงหรือไม่ สำหรับบางคน การทำงานที่มีกฏเกณฑ์น้อย อาจยิ่งทำให้งานออกมาไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าหากคุณมั่นใจในศักยภาพ และความรับผิดชอบของตัวเอง ก็บอกได้เลยว่า งาน Remote Work เหมาะกับคุณเป็นอย่างมาก
3.มีความมั่นใจในการทำงานทางไกลหรือไม่
ในการทำงานแบบทางไกล นอกจากจะต้องมีความสามารถในการทำงาน มีการบริหารเวลาที่เหมาะสมแล้วนั้น อีกหนึ่งอย่างที่ควรตอบให้ได้ก่อนเลยก็คือ ความมั่นใจในการทำงานทางไกล เนื่องจากการทำงานลักษณะนี้ อาจทำให้การทำงานมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกันได้ เนื่องจากเป็นการคุยแบบการแชทเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้หลายๆคนอาจทำงานได้แบบไม่ค่อยมั่นใจนัก
4.มีสถานที่ทำงานที่เหมาะสมหรือไม่
การทำงานแบบ Remote Work เป็นการทำงานที่ไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งติดอยู่กับที่ใดที่หนึ่ง เหมือนกับการทำงานในออฟฟิศ แบบเก่าๆ แต่ในทางกลับกัน หากคุณไม่มีสถานที่ ที่เหมาะสมในการทำงาน ก็อาจเป็นปัญหาใหญ่ในการทำงานเช่นเดียวกัน เช่น การอยู่ในสถานที่ ที่ไม่มีความสงบ มีเสียงดังรบกวนอยู่ตลอดเวลา สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร เป็นต้น ซึ่งหากคุณรู้สึกว่า สถานที่ในการทำงาน Remote Work ของคุณไม่มีความพร้อม ก็อาจไม่เหมาะกับการทำงานในลักษณะนี้นั่นเอง
5.คุณจะแสดงความสามารถ และผลงานอย่างไร
ในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นอาชีพอะไร จำเป็นต้องเเสดงความสามารถ และโชว์ผลงานให้กับหัวหน้าทีม หรือผู้บริหารได้เห็น เพื่อให้เกิดโอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หรือการปรับเพิ่มเงินเดือน เป็นต้น ในการทำงานแบบ Remote Work ก็จำเป็นที่คุณจะต้องหาทางแสดงความสามารถเช่นเดียวกัน ซึ่งคุณจะมีเทคนิคอะไร ที่จะทำให้ทุกคนเห็นความสามารถของคุณ ถ้าตอบคำถามนี้ได้ ก็เหมาะกับงานแบบ Remote Work แน่นอน
6.คุณมีวิธีบริหารเวลาอย่างไร
การทำงานแบบ Remote Work นั้น สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งเลยก็คือ การบริหารเวลาในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ อย่างที่รู้กันดีอยู่ว่า การทำงานในลักษณะนี้ มีความยืดหยุ่น ทำให้สามารถปรับแต่งเวลาในการทำงานตามความต้องการของตัวเองได้ เพียงแค่ทำงานให้เสร็จ คุณก็จะมีเวลาว่างเอาไว้ทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ชื่นชอบ แต่การบริหารเวลาก็อาจเป็นปัญหาของใครหลายๆคน เนื่องจากหากไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอ ก็อาจทำให้งานที่ออกมาไม่มีคุณภาพ และไม่เสร็จตรงภายในเวลาที่ตั้งเอาไว้ จึงควรตอบคำถามให้ได้ว่า จะมีการบริหารเวลาของตัวเองอย่างไร
7.มีเทคนิคอะไรที่ช่วยให้สุขภาพจิตดี
ในการทำงานแบบ Remote Work สำหรับคนที่เป็น Introvert อาจรู้สึกว่าการนั่งทำงานคนเดียวเงียบๆ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงาน ดีกว่าการนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศที่มีความวุ่นวาย แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทาง การออกไปพบปะคนอื่นๆ อาจรู้สึกเบื่อที่จะต้องนั่งทำงานอยู่ที่เดียวเดิมๆเป็นระยะเวลานาน ซึ่งอาจทำให้สุขภาพจิตมีปัญหาได้ คุณจึงควรหากิจกรรม หรือเทคนิคในการทำให้สุขภาพจิตของตัวเองเป็นไปได้ด้วยดี เมื่อนั่งทำงานลักษณะนี้ด้วย
8.คุณมีเทคนิคอะไรในการพัฒนาความรู้ความสามารถ
การทำงานที่ดี จะต้องมีการพัฒนาความรู้ และความสามารถของตัวเราเองอยู่สม่ำเสมอ การทำงานในการนั่งออฟฟิศ อาจมีช่วงเวลาที่เราจะได้รับคำแนะนำ จากเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างานที่มีประสบการณ์ได้มากกว่า อีกทั้งอาจมีการสัมมนาคอร์สพัฒนาความรู้จากองค์กร แต่สำหรับการทำงานทางไกล อาจไม่มีสิ่งเหล่านั้น คุณก็จะต้องหาวิธี ที่จะพัฒนาตัวเองให้ได้
9.คุณมีเครื่องมือที่พร้อมสำหรับการทำงานหรือไม่
เครื่องมือในการทำงาน อย่างคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียร กล้องสำหรับการ Video Conference หรือแม้แต่โปรแกรมปฏิบัติการต่างๆที่จำเป็นสำหรับสายงานของคุณ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคิดก่อนที่จะหางาน Remote Work เนื่องจากบางบริษัทอาจไม่มีการซัพพอร์ตเครื่องมือเหล่านี้ให้กับคุณนั่นเอง แต่สำหรับบางองค์กร ก็จะมีการซัพพอร์ต อุปกรณ์เหล่านี้เอาไว้ให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรสอบถามบริษัทก่อนการเริ่มงานจะดีที่สุด
จบลงไปแล้วกับ เช็คลิสต์ 9 ข้อก่อนหางานแบบ Remote Work ไม่ว่าคุณจะเป็นคนหางานเชียงใหม่ , หางานกรุงเทพ หรือจังหวัดไหนๆ ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองเหมาะกับงาน Remote Work แล้วนั้น เราก็หวังว่าคุณจะมีความสุขในการทำงาน และในครั้งหน้าจะมีบทความดีๆอะไรมาแชร์กันอีก อย่าลืมติดตามกัน