อัพเดทข่าว

       เชื่อว่าคนหางาน คนทำงานหลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นกับชื่อโรคอย่างโรค Imposter Syndrome กันมากเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีอีกหลายคน ที่มีอาการที่จะเป็นโรคนี้ แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และไม่รู้วิธีรับมือ หรือวิธีป้องกันโรคนี้ ในกรณีที่แย่ที่สุด โรคนี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงาน และชีวิตในด้านอื่นๆแบบไม่รู้ตัว วันนี้ เว็บสมัครงาน Jobmyway จึงอยากชวนทุกคนไปดูกันว่า โรค Imposter Syndrome คืออะไร และมีวิธีใดบ้างที่จะช่วยปรับ Mindset ให้เราหายจากโรคเหล่านี้ ตามไปชมกัน

โรค Imposter Syndrome คืออะไร?
หากกล่าวถึงคำว่า โรค Imposter Syndrome หลายๆคนอาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าเอ่ยคำว่า อาการที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งแล้วนั้น หลายๆคนอาจจะร้องอ๋อ เนื่องจากทุกคน อาจมีช่วงเวลาที่มีความคิดเหล่านี้วนอยู่ในหัว ซึ่งความคิดเหล่านี้ อาจเกิดขึ้นมาได้บ้างเป็นครั้งคราว แต่สำหรับหลายๆคน เกิดขึ้นบ่อย จนถูกเรียกว่าเป็นอาการหนึ่งของโรคเลยนั่นเอง โดยลักษณะอาการของโรคที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งนั้น อาจสังเกตุอาการได้ดังนี้

1.รู้สึกว่าตัวเองด้อยคุณภาพ
หากคุณมีความคิดที่ว่า งานของตัวเองนั้นไม่มีคุณภาพ ถึงแม้จะใช้เวลา ใช้ทักษะการทำงานทุกอย่างที่มี และใช้เวลาไปกับการทำงานชิ้นนั้นๆไปมากแล้วก็ตาม นั่นอาจแปลได้ว่า คุณอาจมีอาการที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง

2.รู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง
ถ้าคุณรู้สึกว่า คุณอาจเป็นเหมือนเป็ด ที่มีทักษะในการทำงานที่หลากหลาย แต่กลับไม่เก่งซักอย่าง แล้วก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองหมดคุณค่า นั่นก็อาจแปลได้ว่าคุณเป็นหนึ่งในโรค Imposter Syndrome

3.รู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้
เมื่อคุณทำงานในจุดที่รู้สึกว่าไม่ประสบความสำเร็จ หรือพบเจอความผิดพลาดในงาน แม้จะเป็นจุดผิดพลาดเล็กๆ ในทุกๆครั้งที่มีอาการเหล่านี้ มักเกิดความท้อแท้ เหมือนหมดไฟในการทำงาน เนื่องจากเกิดจากการกดดันตัวเองมากจนเกินไป ซึ่งหากปล่อยให้เกิดอาการเหล่านี้นานๆ อาจเกิดอาการหมดไฟในการทำงานขึ้นมาจริงๆก็เป็นได้

4.ขาดความมั่นใจในตัวเอง
หากคุณเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะรู้สึกว่าไม่มั่นใจ และกลัวผลงานออกมาไม่ดี และไม่ถูกใจคนอื่น ถึงแม้งานนั้นจะถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ นั่นแปลได้ว่าคุณอาจมีอาการของโรคนี้เช่นเดียวกัน

5.รู้สึกไม่ดีเมื่อได้รับคำชม
เมื่อได้รับคำชมต่างๆ คุณกลับรู้สึกว่า เป็นคำชมที่ไม่จริง และตัวของเราไม่สมควรได้รับคำชมเหล่านั้น

6.คิดว่าความสำเร็จที่ได้มา เกิดจากความบังเอิญ
ในทุกๆครั้งที่งานออกมาประสบความสำเร็จ มักจะไม่คิดว่าความสำเร็จเหล่านั้นเกิดจากฝีมือ และความสามารถของตัวเอง แต่เกิดจากความบังเอิญ หรือโชคช่วย

7.เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
หากคุณมีพฤติกรรมที่ชอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น เช่น การสมัครงานในเว็บหางาน แล้วยังไม่มีใครติดต่อกลับมา ต่างจากเพื่อนที่มีบริษัทที่หาคน ติดต่อกลับมาแล้ว หรือ การเปรียบเทียบตัวเองกับคนในโลกโซเชียลมีเดีย ว่ามีชีวิตที่ดีกว่า มีฐานะที่ร่ำรวยกว่า เป็นต้น

8.ชอบกดดันตัวเอง
การกดดันตัวเอง อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังทำงานประจำ ที่มักกดดันตัวเองให้ทำงานออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ คนทำงานฟรีแลนซ์ที่กดดันตัวเอง ในการหางานมากขึ้น เพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิต  หรือคนที่หางานกรุงเทพ ,หางานระยอง,หางานนนทบุรี แต่ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา หรือส่งไปหลายที่แล้วก็ยังหางานไม่ได้ แล้วก็คิดว่าตัวเองอาจไม่ดีพอสำหรับใคร

9.ชอบทำอะไรคนเดียว
หากคุณเป็นคนที่ชอบฉายเดี่ยว รู้สึกว่าการทำงานคนเดียวนั้นสบายใจกว่า เนื่องจากอาจไม่อยากเสี่ยงกับการเกิดความผิดพลาด เมื่อต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น

10.รักในความสมบูรณ์แบบ
ถ้าคุณเป็นคนที่รักในความสมบูรณ์แบบ ทุกอย่างต้องลงล็อคตามที่ใจคิดไว้ ก็อาจเป็นหนึ่งในอาการของโรคที่คิดว่าตัวเองไม่เก่งเช่นเดียวกัน เนื่องจากหากเกิดความไม่สมบูรณ์แบบขึ้นมาแล้วนั้น ก็จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันที

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นโรค Imposter Syndrome
อันที่จริงแล้ว โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในทุกช่วงวัย แต่มักเกิดมากที่สุดในคนช่วงวัยทำงาน โดยเฉพาะคนที่กำลังจะสมัครงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคน หางานเชียงใหม่ หรือจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่หางานในกรุงเทพ  หรือแม้แต่คนที่มีงานทำอยู่ โดยมักมีความสงสัยในความสามารถของตัวเองมาตั้งแต่ในช่วงเวลาเด็ก เนื่องจากอาจถูกดูแล เอาใจใส่มากจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถคิด และตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ จนกลายมาเป็นคนที่ขาดความเชื่อมั่นและความเชื่อถือในตัวเอง จนทำให้เกิดความกดดันในการทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ และกลัวความผิดพลาด

วิธีปรับ Mindset สำหรับคนที่เป็นโรค Imposter Syndrome

1.เปลี่ยนคำติชม นำมาพัฒนาตัวเอง
สิ่งแรกๆที่สามารถเปลี่ยนความคิดของคนที่มีอาการคิดว่าตัวเองไม่เก่งเลยก็คือ การเปิดใจยอมรับฟัง ทั้งทำติ และคำชม ไม่ควรนำเอามาเป็นอารมณ์ แต่ควรมองว่า เป็นคำวิจารณ์ที่จะช่วยพัฒนาฝีมือ ในการทำงานของเราให้ดีขึ้นได้

2.มองสิ่งร้ายๆในแง่ดีบ้าง
หากคุณคิดว่าตัวเองไม่เก่ง หรือทำเป็นหลายอย่างแต่ไม่ดีซักอย่าง ก็อาจเปลี่ยนมุมมองความคิดที่ว่า การทำสิ่งต่างๆเป็นหลายๆอย่าง ทำให้เรามีโอกาสในหน้าที่การงานมากกว่าคนที่เก่งเพียงแค่อย่างเดียว เป็นต้น

3.แบ่งเวลาไปทำสิ่งที่ผ่อนคลาย
การได้หลุดออกจากโลกของการทำงานบ้าง อาจช่วยให้จิตใจของคุณสงบลงได้ โดยอาจเลือกไปทำกิจกรรมที่ชอบในวันหยุด เช่น เล่นกีฬา เที่ยวคาเฟ่ เที่ยวทะเล

4.หากเกิดความรู้สึกในระหว่างทำงาน ให้พักฟังเพลง
การฟังเพลง หรือฟังสิ่งบันเทิงใจในระหว่างการทำงาน อาจสามารถช่วยให้ความคิดของเราไม่จดจ่อ และกดดันกับตัวเองจนเกินไป และอาจช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

5.อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
หากคุณมักเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นบนโซเชียลมีเดียบ่อยๆ ก็ควรลดการใช้โซเชียลมีเดีย และออกไปหากิจกรรมที่บันเทิงใจทำ อีกทั้งยังควรเปลี่ยนความคิดที่ว่า สิ่งสวยงามต่างๆที่เราเห็นในนั้น อาจไม่ใช่ความจริงทั้งหมด

6.คิดว่าไม่มีใครเพอร์เฟค
ไม่ว่าคนนั้นๆจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงาน มีเงินมีทอง และร่ำรวยขนาดไหน คนเหล่านั้นก็ต้องมีข้อเสีย และเคยทำเรื่องผิดพลาดกันมาแล้วทั้งสิ้น การมองแบบนี้ ก็จะช่วยให้คนที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง รู้สึกได้ว่า ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา

7.มองหาความเก่งในจุดเล็กๆ
หากคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความเก่งในการทำงาน อาจเริ่มจากการมองหาความเก่งของตัวเองในจุดเล็กๆ ที่ไม่ใช่เรื่องงาน เพื่อเป็นตัวจุดประกายให้ความคิด ค่อยๆเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นได้ เช่น เราอาจเป็นคนที่ทอดไข่ดาวออกมาสวยงามน่าทาน หรือเป็นคนที่รีดผ้าได้เรียบ เป็นต้น ความคิดดีๆเหล่านี้จะค่อยๆพัฒนาขึ้น จนทำให้ตัวเองเชื่อมันในความเก่งได้นั่นเอง

หากปล่อยให้เกิดโรค Imposter Syndrome เป็นระยะเวลานานจะเป็นอย่างไร?
หากคุณรู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นโรคที่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง ก็ควรรีบปรับ Mindset เพื่อให้สุขภาวะจิตใจดีขึ้น เพราะถ้าหากปล่อยเอาไว้ให้ตัวเองจมอยู่กับความคิดเหล่านี้ อาจพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้า และส่งผลกับชีวิตในด้านต่างๆของคุณได้นั่นเอง

       จบลงไปแล้วกับวิธีปรับ Mindset สำหรับคนหางานที่เป็นโรค Imposter Syndrome สำหรับใครที่สมัครงานในโพสต์ รับสมัครงานต่างๆไปแล้ว แต่ยังไม่ถูกตอบรับ Jobmyway ก็อยากให้กำลังใจว่าอย่าเพิ่งสิ้นหวัง และอย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองไม่เก่ง เพราะซักวันนึง จะต้องมีบริษัทที่เหมาะสมกับเรา เจอเราอย่างแน่นอน ในครั้งหน้าเราจะมีบทความดีๆอะไรมาให้ชมกันอีก รอติดตามกันได้เลย

อัพเดตล่าสุดเมื่อ : 26 ตุลาคม 2565
ผู้อัพเดต : petchzst