น่าจะเห็นกันบ่อยที่บริษัทประกาศรับ สมัครงาน หางาน หาคน เปิดหารับหาพนักงาน แต่ดันมาระบุรับเฉพาะ ‘บางเพศ’ เท่านั้นไหม? หรือบางครั้งเคยมีคนรู้จักถูกปฏิเสธ เพียงเพราะความหลากหลายทางเพศหรือเปล่า?
ในบางองค์กรยังมีความเป็น ‘อคติ’ ตัดโอกาสผู้สมัครเพศอื่นๆ โดยที่ไม่ดูถึงความสามารถของคนนั้นเลย จริงๆใน‘ความสามารถ’ของผู้สมัครงานอาจจะมีความสามารถตอบโจทย์ในด้านของงานส่วนอื่นๆให้กับองค์กรได้เหมือนกัน ซึ่งผู้สมัครงานบางคนทั้งที่ประสบการณ์พร้อม คุณสมบัติครบถ้วน แต่เมื่อ ‘เพศ’ ไม่ตรงตามข้อกำหนด กลายเป็นหมดโอกาสแม้แต่จะเข้าสัมภาษณ์ทันทีแค่เพราะบางองค์กรยังคงมีความเชื่อแบบเหมารวม (Stereotypes) ตัดสินไปแล้วว่า สายอาชีพนี้ เพศนี้เท่านั้นถึงจะ ‘เหมาะสม’ หรือจะทำได้ดี
ชุดความคิดประเภท 'งานนั้นต้องเพศนั้นสิ เพศนี้ทำงานนี้ไม่ได้เพราะมันดูไม่เหมาะ' ‘งานขายต้องเป็นผู้หญิงสิ งานครีเอทีฟ หรืองานสายบันเทิงต้องกลุ่ม LGBTQIA+ สิ ถึงจะรุ่ง’ ความคิดแบบนี้ไม่ต่างอะไรจากการตัดสินคนด้วยอคติของตัวเอง
อย่าลืมว่า ความสามารถของคนไม่ได้ถูกตีกรอบด้วยเพศ และมันไม่มีสูตรตายตัวว่า ‘ตำแหน่งงาน’ ใดเหมาะกับเพศใด อย่าด่วนตัดสินและแปะป้ายว่าเพศใดควรทำงานอะไรจึงนับเป็นเรื่องสูญเปล่า
ถึงเวลาแล้ว ที่องค์กรต้องหยุดเหมารวม หยุดยึดติดกับความคิดเรื่องการหางานโฟกัสที่ ‘เพศให้ตรงตำแหน่งงาน’ จนมองข้ามความสามารถและศักยภาพของผู้สมัครงาน และเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้ฉายแสงอย่างเท่าเทียมกันและหากเป็นแบบนั้นได้ กำไรก็จะตกอยู่กับตัวบริษัทเอง ที่จะสามารถเพิ่มตัวเลือกและดึงดูดคนเก่งๆ เข้ามาร่วมงาน กลายเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนทีมและองค์กรให้เหนือคู่แข่งได้
จะว่าไปแล้ว กระแส Pride ที่ขยายตัวไปทั่วโลกนี้ ยังสอดคล้องกับกระแสการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิและความเท่าเทียมกันในที่ทำงานที่แม้คนกลุ่มนี้จะได้รับการยอมรับว่า มีความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็ยังพบว่า หลายองค์กรยังขาดการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียม และบรรยากาศที่เอื้อต่อการแสดงออก ทำให้พนักงานกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศไม่ได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสม และไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพของตนออกมาได้อย่างเต็มที่
Cr. PRTR