ขวัญเอ้ย ขวัญมา! นะน้องนะ ปัญหาหลักๆ การหางานของเด็กจบใหม่ คือ ส่วนใหญ่บริษัทต่างๆ ชอบรับพนักงานที่มีประสบการณ์เท่านั้น ก็ฉันเพิ่งเรียนจบ จะเอาเวลาไหนไปหาประสบการณ์ล่ะ เฮ้อออออออ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ได้งานทำเลยนะ งั้นเราต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่หลังจากที่จบมาหมาดๆ jomyway.com จะบอกลู่ทางให้น้องๆ มีช่องทางและนำไปต่อยอดได้อย่างง่ายดาย เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้งานที่แท้จริง ดังนี้
1.สร้างเรซูเม่ให้ปังและดูแพง ให้ตรงบทบาทที่บริษัทต้องการ
ถึงแม้ว่าเราใหม่ต่องาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราใหม่ต่อโลก ฉะนั้น สิ่งที่เราเจอในชีวิตประจำวันก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ได้ เช่น เราสามารถนำผลงานหรือกิจกรรมในมหาวิทยาลัย หรือเคยร่วมงานกับหน่วยงานใดบ้าง แม้กระทั่งงานเสริมทั่วๆ ไป เพื่อทำให้เรานั้นดูเหมือนมีประสบการณ์การทำงานมากขึ้น
2.สร้างตัวตนให้ดูน่าสนใจมากขึ้น
เนื่องจากคู่แข่งของผู้สมัครงานนั้นสูงมาก ล้วนมีแต่ประสบการณ์ทั้งนั้น เอาไงละทีนี้ เราก็งัดตัวตน หรือจุดเด่นของเราออกมาแสดงให้เห็นสิ เช่น ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเรารับผิดชอบอะไรบ้าง ได้ตำแหน่งอะไรในคณะ เช่น เป็นดาวมหาลัย เป็นประธานนักศึกษา เป็นหัวหน้าคณะสี เป็นต้น เพื่อให้ดูว่าเราเคยรับผิดชอบ มีค่า มีตัวตน มีบทบาท เป็นบุคคลสำคัญของสถาบัน หากไม่มีประสบการณ์ดังกล่าว แสดงความสามารถอะไรก็ได้ที่เราถนัด ให้เหมาะกับสายงานที่จะสมัคร
3.อย่าหยุดการพัฒนาและเพิ่มความสามารถให้กับตัวเอง
หาความรู้ใหม่ๆ เข้าตัวเพื่อให้ตัวเองนั้นมีความสามารถมากยิ่งขึ้น อาจจะส่งผลดึงดูดความสนใจของผู้รับสมัคร เช่น เรียนภาษาต่างประเทศที่สนใจ เรียนกราฟิก (บางสายงานต้องใช้) รวมถึงฝึกทักษะเครื่องมือการทำงานเอกสารจำพวก MicroSoft ต่างๆ ให้ดูชำนาญยิ่งขึ้น รวมๆ แล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามั่นใจ ว่าเราสามารถทำงานในสายนี้ได้อย่างแน่นอน
4.เข้าสู่วงการที่ตรงกับสายงาน
ทุกวันนี้ทาง Social media ก็มีแหล่งข่าวประสบการณ์ในด้านสายงานต่างๆ ให้เราได้ทราบข้อมูลนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสายงานบันเทิง หรือการตลาดดิจิทัล ต่างๆ ที่มีตามกลุ่มในเฟสบุ๊กหรือตามแฟนเพจชื่อดัง ได้นำเกร็ดความรู้มาให้ ดังนั้นเราต้องผันตัวเอง เข้าหากลุ่มที่เราสนใจ หรือ เรื่องที่ตรงกับสายงาน หาได้ตามแหล่ง Social ต่างๆ ไว้ให้เราได้ซึมซับทีละเล็ก ทีละน้อย เพื่อเป็นการต่อยอดให้เรานั้นมีความรู้ใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา
5.ใช้ประสบการณ์จากการฝึกงาน หรือ งานพาร์ทไทม์
ฝึกงาน ใครๆ ต้องได้ทำ ไม่งั้นจะจบมาได้ไง จริงมั้ย? นั่นละ งัดมาโชว์เลยว่า เราผ่านงานอะไรบ้าง ระหว่างที่ฝึกงานกับบริษัทนั้นๆ เราอยู่ในแผนกอะไร ได้ทำผลงาน หรือ มี Project อะไรที่ไปนำเสนอให้กับองค์กร รวมถึงเคยทำงานพาร์ทไทม์อะไรมาบ้าง รวมถึงงานที่พ่อแม่ใช้ให้เราทำก็ได้นะ เช่น ช่วยขายก๋วยเตี๋ยว ขับรถส่งของ ปริ้นเอกสาร ขายของออนไลน์ เป็นต้น ถ้าหากไม่เคยทำเลย อาจจะพูดถึงการสอบชิงทุนหรือการแข่งขันต่างสถาบัน ได้รางวัลอะไรมาบ้าง เพื่อให้เราดูมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น
6.การส่ง E-mail สมัครงานอย่างถูกต้อง
บางทีเด็กจบใหม่ ส่วนมากจะพลาดเพราะการยื่นสมัครในอีเมล์แบบผิดๆ อาจจะเป็นเพราะการหว่านส่งสมัครหลายๆ ที่ แต่ลืมเปลี่ยนข้อมูลบริษัท หรือ ชื่อตำแหน่งงานที่เขารับสมัคร ทำให้ Hr. บางท่าน ไม่เปิดอ่านก็เป็นได้ ฉะนั้นควรตรวจสอบตัวหนังสื่อทุกตัว ทุกบรรทัด หรือรูปถ่ายของเราให้ชัดเจน พยายามปรับเปลี่ยนรูปให้ดูน่าสนใจ หน้าชัด เสื้อผ้าหน้าผมต้องเป๊ะ และเราต้องโฟกัสตำแหน่งงานที่เราอยากทำจริงๆ ให้ตรงหรือใกล้เคียงกับวิชาสาขาที่เราจบมา พยายามค้นหาตำแหน่งงานที่เขียนว่า “ยินดีรับนักศึกษาจบใหม่” นั่นละ เป็นเป็นโอกาสไปได้สูงที่เราจะได้งานทำ
สุดท้ายนี้ ทางเราก็ขอภาวนาให้น้องๆ นักศึกษาจบใหม่ทุกคน ได้งานตามที่ตั้งใจไว้ และหมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสายงานที่ตนเองสนใจอยู่บ่อยครั้ง เพื่อที่เราจะได้ไปสู้กับผู้สมัครคนอื่นๆ ได้ ทั้งนี้อยู่ที่ตัวน้องๆ แล้วว่า เราเริ่มตรงจุดไหนก่อน จะแก้ไขในส่วนใดก่อน ขึ้นอยู่กับความถนัดของตนเอง อย่างไรก็ตามทางเราขอเป็นแนวทางเลือกหนึ่งที่ให้น้องๆ ยื่นสมัครงานและตัดสินใจฝากประวัติกับ jobmyway.com