การต่อรองเงินเดือนนั้นเป็นหนึ่งความท้าทายสำหรับผู้สมัครงานและผู้ทำงานที่จะมีการปรับเงินเดือนอยู่เช่นกัน ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอยู่เหมือนกัน ต้องใช้วิธีโน้มน้ามใจ ผู้บริหารหรือ HR ให้เห็นว่า คุณนั้นมีความสามารถในการช่วยธุรกิจภายในองค์กรได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะไม่กล้าหรือเกรงใจที่จะพูดตรงๆ สัปดาห์นี้ จ็อบมายเวย์ ได้ลองรวบรวมเทคนิคหลากหลายมาแนะนำเพื่อนำไปเลือกปรับใช้ให้เข้ากับผู้สมัครงาน และคนที่กำลังหางาน มาฝากกันค่ะ
1. Resume/Portfolio/CV
Portfolio คืออาวุธสำคัญก็ว่าได้ ที่จะช่วยในการต่อรองเงินเดือนให้สูงขึ้น ว่าเรามีความสามารถอะไร และมีผลงานอะไรที่โดดเด่นจากการทำงานที่ผ่านมา ให้เรียบเรียงเก็บเป็น Portfolio ไว้ให้ดี เพราะนี่คือหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้บริษัทมั่นใจได้ว่าหากยอมรับกับอัตราเงินเดือนที่เราต่อรองไป บริษัทจะไม่ผิดหวังที่รับเราเข้าทำงาน
2.ดูฐานเงินเดือนในตลาด
อย่างแรกเลยอย่าลืมศึกษาฐานเงินเดือนในตลาดก่อนเพื่อให้เรามีข้อมูลว่าตำแหน่งที่สมัครไปนั้นมีฐานเงินเดือนอยู่ประมาณเท่าไหร่ จะได้รู้เป็นข้อมูลตอนถูกสัมภาษณ์ว่าบริษัทให้เงินเดือนสูงหรือต่ำกว่าฐานเงินเดือนในตลาดนั่นเอง
3.ทำการบ้านเกี่ยวกับองค์กรที่คุณไปสัมภาษณ์
เนื่องจากผู้สมัครงานก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก และองค์กรเองก็หาคน หาพนักงานเหมือนกัน ฉะนั้นเราควรศึกษาข้อมูลขององค์กรว่าเค้าทำธุรกิจอะไร และ ธุรกิจนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อการตอบคำถามสำหรับฝ่าย HR
4.สร้างความต้องการของตัวเองให้ชัดเจน
หลังจากเรามีข้อมูลพื้นแล้วและรู้แล้วว่าตัวเองสำคัญยังไงกับบริษัท สิ่งต่อเราต้องชัดเจนคือ “ระบุความต้องการของตัวเองให้ชัดเจน” ก่อนเริ่มต้นการต่อรองเงินเดือน ควรมีกรอบที่ชัดเจนในใจแล้วว่า “ต้องการช่วงเงินเดือนเท่าไรและรับได้ต่ำสุดแค่ไหน”
5.เราสามารถสร้างอะไรให้บริษัทได้บ้าง
ในขั้นตอนนี้ก็เป็นการสมัครงานทั่วๆไป เราก็เหมือนกำลังพรีเซนต์งาน‘ขายตัวเอง’ กับนายจ้าง ฉะนั้น คำถามที่สำคัญคือ “ทำอย่างไรเขาถึงจะซื้อ” เราจึงต้องเตรียมตัวพรีเซนต์ “จุดแข็ง” ของเราให้พร้อม เริ่มต้นง่ายๆ จากอธิบายงานที่ทำงานเก่า ปกติแล้วในแต่ละวันเราทำงานอะไร แต่ละสิ่งสำคัญกับบริษัทยังไง ถ้าขาดเราไปตรงนั้นจะมีปัญหายังไงบ้าง
6.หาทางเลือกสำรอง
อย่าลืมเด็ดขาดว่าต้องมองหาทางเลือกสำรองไว้ด้วย หากสุดท้ายไม่สามารถต่อรองเงินเดือนให้ได้ในอัตราที่ต้องการ อาจจะมองหาบริษัทอื่นที่สนใจความสามารถของเรามากกว่า ถ้าหากเรามีข้อดีก็ไม่ควรให้ถูกบริษัทเอาเปรียบด้วยการกดเงินเดือนเหมือนกัน ไม่แน่นะ ที่สำรองที่เราหาไว้อาจเห็นคุณค่าในความสามารถของเราก็ได้ อย่ากลัวที่จะไม่ได้งาน
และสุดท้ายที่สำคัญคือ การแต่งกายให้ถูกกาลเทศะด้วย การวางตัวที่เหมาะสม เพิ่มความมั่นใจในคุณค่าผลงานของตัวเอง จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตัวผู้สมัครและคนทำงานได้ทุกคนเช่นกันค่ะ