"ยื่นภาษีปี 64" สรุปมาให้แล้ว 3 เรื่องที่ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาต่างไปจากเดิม ปรับลดเงินสมทบประกันสังคม อัตราการหักภาษี ณ ที่จ่าย น้อยลง แถมยังมี เงินเยียวยา แบบนี้ต้องเตรียมตัวยื่นภาษีอย่างไร
มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ถึงเวลาที่หลายคนจะต้องคำนวณภาษีเพื่อเตรียมยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในช่วงปี 2565 สำหรับปีภาษี 2564 มีความแตกต่างจากปีก่อนหน้า เนื่องจากเป็นปีที่ภาครัฐออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนจากผลกระทบทางการเงินในช่วง โควิด-19 ที่กลับมาระบาดอีกระลอก
ทั้งนี้ การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มี 3 เรื่องที่แตกต่างไปจากปีก่อนหน้าที่ผู้มีเงินได้จะต้องรู้และทำความเข้าใจ เพื่อวางแผนภาษีของตัวเองในปีนี้ได้ง่ายขึ้น ดังนี้
ลดการส่งเงินสมทบประกันสังคม
ปกติแล้วผู้มีรายได้ที่มีการจ่ายเงินสมทบเข้าไปในประกันสังคมทุก ๆ เดือน จะสามารถนำจำนวนเงินที่สมทบเข้าประกันสังคมตลอดทั้งปี ในอัตราที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท ไปใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ แต่ในปีนี้ ประกันสังคม มีนโยบายลดอัตราส่งเงินสมทบของกองทุนประกันสังคมทุกมาตรา ทั้ง ม.33 ม.39 ม.40 ทำให้ผู้เสียภาษีสามารถนำเงินส่วนนี้ไปลดหย่อนภาษีได้น้อยลงด้วย
ผู้ประกันตน ม.33
จะสามารถยื่นลดหย่อนภาษีในส่วนของประกันสังคมได้สูงสุดที่ 5,100 บาทในปีภาษี 2564 (จากเดิมสูงสุด 9,000 บาท) เนื่องจากในปีนี้ ประกันสังคมมีนโยบายเรียกเก็บเงินสมทบลดลงในช่วง โควิด-19 ระบาด จากสูงสุดเดือนละ 750 บาท ดังนี้
• เดือน มกราคม หัก 3% สูงสุด 450 บาท
• เดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม หัก 0.5% สูงสุด 75 บาท
• เดือน เมษายน - พฤษภาคม หักเงินสมทบตามเดิม 750 บาท
• เดือน มิถุนายน - พฤศจิกายน หัก 2.5% สูงสุด 375 บาท
• เดือน ธันวาคม ไม่ได้มีการแจ้งลดการหักเงินสมทบ จึงกลับมาคิดที่เต็มจำนวนเงินสมทบเดิมที่อัตรา 750 บาท
ผู้ประกันตน ม.39
จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนประกันสังคมในปีภาษี 2564 ได้สูงสุดไม่เกิน 3,483 บาท เนื่องจากมีการลดการส่งเงินประกันสังคมในปีนี้จากเดิม 432 บาท ดังนี้
• เดือน มกราคม - มีนาคม ลดสมทบเหลือ 278 บาท
• เดือน เมษายน - พฤษภาคม หักสมทบ 432 บาทตามเดิม
• เดือน มิถุนายน - สิงหาคม ลดสมทบเหลือ 216 บาท
• เดือน กันยายน - พฤศจิกายน ลดสมทบเหลือ 235 บาท
• เดือน ธันวาคม ไม่ได้มีการแจ้งลดการหักเงินสมทบ จึงคิดการหักสมทบ 432 บาทตามเดิม
ผู้ประกันตน ม.40
จะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนประกันสังคมในปีภาษี 2564 ได้สูงสุดไม่เกิน 700 , 1,000 และ 3,000 บาท ตามการสมทบ ทางเลือกที่ 1 ทางเลือกที่ 2 และ ทางเลือกที่ 3 ตามลำดับ
• เดือน มกราคม - กรกฎาคม จ่ายตามปกติ ทางเลือกที่ 1 = 70 บาท ทางเลือกที่ 2 = 100 บาท และทางเลือกที่ 3 = 300 บาท
• เดือน สิงหาคม - ธันวาคม ลดเงินสมทบประกันสังคมลง ทางเลือกที่ 1 = 42 บาท ทางเลือกที่ 2 = 60 บาท และทางเลือกที่ 3 = 180 บาท
ดังนั้น หมายความว่า ผู้มีเงินได้ที่มีรายได้เท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้น ในช่วงปี 2564 จะมีตัวช่วยลดหย่อนภาษีได้น้อยลง และอาจต้องมองหาสิ่งที่จะสามารถนำมาช่วยลดหย่อนภาษีจากส่วนอื่น ๆ เพิ่มขึ้นในปีนี้
หักภาษี ณ ที่จ่าย ลดลง
อีกหนึ่งมาตรการพิเศษช่วยเหลือประชาชนที่เกิดขึ้นในปีนี้ คือ การลดอัตรา หักภาษี ณ ที่จ่าย ในปี 2564 จากเดิม 3% ลดลงเหลือ 1.5 - 2% ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน และเป็นไปตามประเภทของเงินได้ที่แต่ละคนได้รับ ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ให้ลดอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย จาก 1 ตุลาคม 2563 - 31 ตุลาคม 2564 ลดหักภาษี ณ ที่จ่าย จาก 3% เป็น 2% สำหรับผู้มีประเภทเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา ดังนี้
• เงินได้ตาม มาตรา 40 (6)* หักภาษี ณ ที่จ่าย 2%
*เงินได้ประเภทที่ 6 คือ รูปของค่าตอบแทนจากการประกอบวิชาชีพอิสระที่มีจำนวนไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับปริมาณหรือความยากง่าย ซึ่งมี 6 อาชีพ ได้แก่ การประกอบโรคศิลปะ , นักกฎหมาย , วิศวกร , สถาปนิก , นักบัญชี และ ช่างประณีตศิลป์
• เงินได้ตาม มาตรา 40 (7)** หักภาษี ณ ที่จ่าย 2%
**เงินได้ประเภทที่ 7 คือ ค่ารับเหมาที่มีการเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ โดยที่คุณเป็นผู้จัดหาทั้งแรงงาน เครื่องมือ และสัมภาระเอง เช่น รับเหมาก่อสร้าง , รับผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้าต้องการโดยที่ปกติคุณไม่ได้ทำขายเป็นปกติทั่วไป เช่น ผลิตตามต้นแบบของลูกค้า
• เงินได้ตาม มาตรา 40 (8)*** ในส่วนจ้างทำของ รางวัล ส่วนลด ส่งเสริมการขาย หักภาษี ณ ที่จ่าย 2%
***เงินได้ประเภทที่ 8 คือ เงินได้พึงประเมินที่ไม่สามารถจัดให้เข้ากลุ่มเงินได้ประเภทที่ 1 - 7 ได้ เช่น ขายของออนไลน์ เปิดร้านอาหาร กำไรจากการขายกองทุน LTF / RMF เงินส่วนแบ่งกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนและคณะบุคคล และอื่น ๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ หักภาษี ณ ที่จ่าย คือ การหักภาษีล่วงหน้าบางส่วนตอนที่มีการจ่ายและรับเงิน หากผู้มีรายได้มีการยื่นภาษีแล้วเงินได้สุทธิไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี หรือพบว่าถูกหักภาษีไว้มากกว่าจำนวนภาษีที่ต้องจ่ายจริง จะสามารถขอรับเงินภาษีคืนจากที่เคยถูกหักไปก่อนหน้านี้ได้
ดังนั้น ผลจากการลดการหักภาษี ณ ที่จ่าย ลดลง ช่วยให้ประชาชนถูกหักภาษีน้อยลง ณ เวลาที่ได้รับเงิน มีสภาพคล่องมากขึ้น แต่ในช่วงที่กำลังมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษี อัตราการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่ลดลงทำให้ตัวเลขที่จะนำมาช่วยลดหย่อนต่ำลงไปด้วย สำหรับคนที่ยังมีรายได้สุทธิอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี จึงควรวางแผนภาษีใหม่ หรือหาตัวช่วยอื่น ๆ มาลดหย่อนภาษีในส่วนนี้แทน
• ได้รับ เงินเยียวยา จากมาตรการของรัฐ เสียภาษีเงินได้อย่างไร ?
ในช่วงปี 2564 มีมาตรการเยียวยาและการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาให้ประชาชนหลายโครงการ ซึ่งผู้ที่เป็นบุคคลธรรมดาที่ได้รับสิทธิใช้เงิน เช่น โครงการ คนละครึ่ง เราชนะ เราเที่ยวด้วยกัน ไม่ต้องนำเงินจำนวนนี้มา ยื่นภาษี และไม่ต้อง เสียภาษี แต่อย่างใด เนื่องจากตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ยกเว้นภาษีเงินได้โครงการ คนละครึ่ง และ เราเที่ยวด้วยกัน ไว้อยู่แล้ว ส่วนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง และ เราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือร้านค้า หากมีเงินได้ที่ถึงฐานก็ต้องเสียภาษีปกติ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับบุคคลทั่วไป
Cr. komchadluek