เชื่อว่าหลายๆคน ที่กำลังมองหางาน หรืออยากที่จะสมัครงานใหม่ อาจจะกำลังมีข้อสงสัยที่ว่า ควรหางานอย่างไรให้ได้งานที่ชอบและโดนใจจริงๆ
1.ไม่ควรมองแค่หัวข้องาน
การหางานที่ดี ไม่ควรมองแค่หัวข้องาน หรือชื่อตำแหน่งงาน ควรกดเข้าไปดูลักษณะหน้าที่ของงานนั้นๆ เพื่อที่จะได้สามารถประเมินลักษณะการทำงาน กับความสามารถของเราได้ ซึ่งในหลายๆองค์กร ที่เลือกใช้ชื่อตำแหน่งงานเหมือนกัน แต่ลักษณะหน้าที่ในการทำงานนั้นมีความแตกต่างกัน ถ้าหากว่าคุณอยากได้งานที่ตรงใจจริงๆ ก็อย่าลืมอ่านลักษณะการทำงานและขอบเขตของงานให้ละเอียดจะดีที่สุด
2.ลองค้นหางานใกล้เคียง
งานหลายๆงานมีลักษณะการทำงานที่คล้ายคลึงกัน แต่อาจเรียกชื่อตำแหน่งงานที่แตกต่างกัน หากคุณอยากหางานให้ได้มากขึ้น ก็ลองใส่คีย์เวิร์ดในการค้นหาที่มีความหลากหลาย และลองหาลักษณะงานที่มีความใกล้เคียงกับงานที่ต้องการ ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการหางานที่มีความหลากหลายมากขึ้นนั่นเอง
3.ค้นหางานที่สามารถต่อรองได้
หลายๆคนอาจเคยคุ้นกับประโยครับสมัครงานที่ว่า สามารถต่อรองได้ ซึ่งประโยคนี้เป็นการบ่งบอกว่าบริษัทนั้นๆมีความยืดหยุ่น และสามารถรับฟังความต้องการของคนทำงานได้ อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูง อย่างในบางบริษัท สามารถต่อรองเงินเดือน ต่อรองวันทำงาน Work From Home หรือแม้แต่สามารถต่อรองเวลาเข้าทำงานได้ สิ่งนี้จะทำให้คุณมีความยืดหยุ่นและสะดวกสบายในชีวิตมากขึ้น
4.จดบันทึกรายละเอียดที่สำคัญเอาไว้
ในการค้นหางานทุกครั้ง ในขั้นตอนเริ่มต้น คุณควรเริ่มจดข้อมูลสำคัญของตัวคุณเองเอาไว้ รวมถึงทักษะทางการทำงาน ที่อาจสามารถมาปรับใช้ในการหางานได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณมีทางเลือกในการค้นหางานได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีความสามารถทางด้านการถ่ายภาพ และการตัดต่อวิดีโอ ก็หมายความว่า คุณจะสามารถสมัครงานช่างภาพ และงานตัดต่อวิดีโอควบคู่ไปด้วยกันได้ อีกทั้งยังควรจดบันทึกรายละเอียดงานที่สนใจเอาไว้ เพื่อนำไปใช้ค้นหาและเพื่อเปรียบเทียบงานในสายงานเดียวกันนั่นเอง
5.หางานจากความชำนาญทางอาชีพเป็นหลัก
หากคุณมีความสามารถที่หลากหลาย หรือมีทักษะทางอาชีพที่เรียกได้ว่า สามารถทำได้ครอบคลุมจึงทำให้ไม่รู้ว่าควรที่จะสมัครงานในสายงานใดดี? การหางานจากความชำนาญเป็นหลัก จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้งานนั้นๆมากขึ้น กว่าการไปสมัครงานในสายงานที่พอทำได้ หรือยังไม่มีความรู้มากเพียงพอ
6.อย่าลืมให้ความสำคัญกับจดหมายสมัครงาน
การเขียนจดหมายสมัครงาน หรือ Cover letter เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งาน ซึ่งเชื่อได้เลยว่ามีผู้สมัครงานหลายคนที่มองข้ามการเขียนจดหมายสมัครงานไป และทำให้อาจไม่ได้งานอย่างที่ใจหวังนั่นเอง
7.เตรียมตัวให้พร้อม
การเตรียมตัวให้พร้อมคือสิ่งสำคัญ หากคุณยื่นสมัครงานที่ใดไป ก็ควรจด และจำข้อมูลของบริษัทนั้นๆให้ดี เพราะวันหนึ่งอาจมีHR โทรมาสัมภาษณ์คุณทางโทรศัพท์เบื้องต้น หากคุณไม่มีการเตรียมตัวให้ดี ก็อาจทำให้งานดีๆที่ต้องการนั้นหลุดมือไปก็เป็นได้
8.เตรียมคำถามที่จำเป็น
หลังจากมั่นใจแล้วว่า เราอยากจะทำงานในบริษัทใด ก็ควรเข้าไปค้นหาที่อยู่ของบริษัท ประวัติความเป็นมาของบริษัทคร่าวๆ อีกทั้งสวัสดิการของบริษัท และควรลองคิดคำถามที่จำเป็นเอาไว้ถามกับผู้สัมภาษณ์งาน เพื่อให้เราได้เข้าใจถึงสิ่งต่างๆของบริษัทนั้นๆมากขึ้น เช่น วันและเวลาเข้างาน หลักการในการคิดค่าล่วงเวลา เป็นต้น
9.มารยาทคือสิ่งสำคัญ
หากคุณต้องการสมัครงาน หรือหางานที่ตรงใจ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมเลยก็คือ มารยาทในขั้นพื้นฐาน อย่างมารยาทในการเขียนข้อมูลส่วนตัว การเขียนจดหมายสมัครงาน ที่ควรเลือกใช้ประโยคที่มีความเป็นทางการ อีกทั้งยังควรเลือกใช้ภาษา การสะกดคำที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวคุณนั่นเอง
10.ชั่งน้ำหนักในการเลือกงาน
เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยเจอกับเหตุการณ์ การถูกคัดเลือกจากหลายบริษัท และอาจเกิดความสับสนว่าควรเลือกเข้าทำงานที่ใดดี การชั่งน้ำหนักในการเลือกงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ คุณจำเป็นต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าบริษัทใด ที่จะช่วยส่งเสริมตัวคุณได้มากที่สุด อีกทั้งยังช่วยให้หน้าที่การงานของคุณสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกในอนาคต อีกทั้งยังควรคำนึงถึงความสมดุลในการทำงานกับชีวิตประจำวันด้วยนั่นเอง