ผู้คนในเจนเนอร์เรชั่น Z คือนิยามของผู้คนที่เกิดหลังจากปี พ.ศ. 2538 ที่ได้เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีต่างๆมากมาย มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าทำ มีความมั่นใจสูง มีความสามารถในการทำงานหลายๆด้าน แล้วผู้ประกอบการควรปรับตัวอย่างไร ให้สามารถทำงานร่วมกับผู้สมัครงาน หรือพนักงานในองค์กรที่อยู่ในเจนเนอเรชั่นนี้ได้อย่างประสบความสำเร็จ ตามเราไปดูกัน
เข้าใจใน Gen
กลุ่มของคนที่เกิดในช่วงเจนเนอเรชั่นนี้ มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความสามารถในการทำงานหลายๆอย่าง ผู้ประกอบการจึงต้องเข้าใจ และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน ให้เหมาะสมกับคนนั้นๆ ซึ่งจะแตกต่างจากคนในเจนเนอเรชั่นอื่นๆที่ต้องการ ความมั่นคงในอาชีพ และถนัดในงานเพียงด้านใดด้านหนึ่งมากกว่า
Gen Z ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ
คนใน Gen Z ต้องการความก้าวหน้าในอาชีพสูง พวกเขาพร้อมที่จะทำงานเพื่อผลลัพธ์ในอนาคต และพร้อมนำความรู้ต่างๆมาต่อยอดเพื่อพัฒนาองค์กร แต่ในทางกลับกัน ผู้ประกอบการเองก็จำเป็นต้องมองเห็นในสิ่งที่พวกเขาทำ และไม่ควรมองข้ามความสามารถนั่นเอง
พวกเขาให้ความสำคัญกับ Work Life Balance
Work Life Balance หรือความสมดุลระหว่างขีวิตและการทำงาน ถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับคนใน Gen Z พวกเขาไม่ยอมที่จะทำงานข้ามวันข้ามคืน เพื่อเเลกกับเงินเดือน แต่เขาเลือกที่จะเเบ่งเวลาไปใช้เพื่อชีวิตส่วนตัวด้วย ฉะนั้น ผู้ประกอบการก็ควรเข้าใจ และปรับองค์กรให้เข้ากับการ Work Life Balance เพื่อช่วยให้การทำงาน และชีวิตส่วนตัวเป็นไปอย่างราบรื่น
มีความเป็นดิจิตอลสูง
ในองค์กรที่เต็มไปด้วยผู้คนในเจนเนอเรชั่นเก่าๆ อย่าง Baby Boomer หรือ Y อาจมีความสามารถในเรื่องของการจัดการสิ่งต่างๆ มีความอดทนในที่ทำงาน แต่สิ่งที่ขาดไปในยุคปัจจุบันเลยก็คือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ถ้าหากรับคนทำงาน ที่เป็น Gen Z เข้ามาล่ะก็ พวกเขาอาจมีส่วนช่วยในการปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน หรือช่วยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการเองควรเปิดใจและรับไอเดียใหม่ๆเช่นกัน