สำหรับบริษัท
ต้องการ สมัครงาน work from home ทำวิธีนี้ให้เตะตาถูกใจ HR ไม่พลาดกับงานที่ต้องการ

ต้องการ สมัครงาน work from home ทำวิธีนี้ให้เตะตาถูกใจ HR ไม่พลาดกับงานที่ต้องการ

12 ธันวาคม 2566

ต้องการ สมัครงาน work from home ทำวิธีนี้ให้เตะตาถูกใจ HR ไม่พลาดกับงานที่ต้องการ

12 ธันวาคม 2566

       ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเริ่มอยาก สมัครงาน work from home ไม่ว่าคุณจะเป็นคนเริ่มทำงานใหม่ อย่าง First Jobber หรือเป็นคนทำงานที่อยากเปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็นการทำงานที่บ้าน ทราบกันไหมว่า ควรมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ให้ถูกคัดเลือก และเตะตาผู้รับสมัคร เนื่องจากในปัจจุบัน การทำงานที่บ้านหรือ Work From Home นั้น มีการแข่งขันที่สูง และมีผู้ที่สนใจทำงานรูปแบบนี้เป็นจำนวนมาก วันนี้ Jobmyway จึงได้รวบรวมเทคนิคดีๆ ที่ให้คุณค้นหา รับสมัครงาน work from home ให้ถูกใจ HR และสามารถได้งานที่ได้รับเงินเดือนที่ดี จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย


สมัครงาน work from home ควรเริ่มจากตรงไหน?
1.หางาน Work From Home จากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้
ขั้นตอนแรกในการหางานที่ทำอยู่ที่บ้านเลยก็คือ การหาประกาศ หรือโพสต์ รับสมัครงาน work from home จากเว็บไซต์ หรือเพจที่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากในปัจจุบัน ผู้อ่านน่าจะทราบกันดีว่า มีมิจฉาชีพ แฝงตัวปะปนอยู่ในเพจ หรือเว็บไซต์ต่างๆเป็นจำนวนมาก หากคุณพลาดส่งข้อมูลไปยังเว็บไซต์รับสมัครงาน หรือเพจที่ไม่น่าเชื่อถือ ก็อาจส่งผลให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณหลุดลอดออกไป และอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ การเลือกเว็บไซต์สมัครงานที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างเว็บไซต์ Jobmyway หรือแม้แต่เพจรับสมัครงาน ที่มีจำนวนผู้เข้าใช้งานเยอะ ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางที่จะสามารถช่วยให้คุณมีความปลอดภัยในการส่งใบสมัครงาน และช่วยให้คุณสามารถหางานที่ทำอยู่ที่บ้านได้จริงนั่นเอง


2.ค้นหางานที่เหมาะสมกับความสามารถ
ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือ ขั้นตอนในการค้นหางาน หลังจากผ่านการคัดเลือกเว็บสมัครงานที่น่าเชื่อถือมาแล้ว การหางานที่เหมาะกับคุณ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ โดยอาจเริ่มจากการลิสต์ตำแหน่งงานจากความชอบ ความถนัดมาเป็นอันดับต้นๆ แล้วก็ค่อยๆลิสต์งานที่มีความชอบหรือความเก่งรองลงมา แล้วค่อยๆส่งใบสมัครงาน เนื่องจาก การทำงานที่บ้าน คนทำงานจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ ความสามารถ เพียงพอต่อการทำงาน เนื่องจากเป็นการทำงานที่บ้าน ที่ต้องใช้ความสามารถ และความรับผิดชอบที่สูง นั่นเอง


3.เช็กว่าสภาพแวดล้อมที่บ้านเหมาะกับการทำงานหรือไม่
สิ่งต่อมาเลยก็คือ การตรวจเช็กความพร้อมในการทำงาน อย่างสภาพแวดล้อมในการทำงาน เนื่องจากการทำงานที่บ้านนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการประชุมงานออนไลน์ แทบจะตลอดเวลา ถ้าหากสภาพแวดล้อมภายในบ้านของคุณไม่เหมาะสมกับการประชุมงาน เช่น มีเสียงดังตลอดเวลา ไม่มีมุมทำงานส่วนตัว ทำให้เห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาตลอดเวลา ก็อาจทำให้การทำงานเกิดปัญหาได้ จึงควรเช็กว่าที่บ้านของเรามีพื้นที่ ที่แสงเข้าถึง สะอาด เป็นส่วนตัว และปลอดเสียงรบกวน สำหรับใช้ในการทำงานหรือไม่


4.เช็กว่าอุปกรณ์ในการทำงานมีเพียงพอหรือไม่
นอกจากสภาพแวดล้อมที่ควรเช็กแล้วนั้น การตรวจเช็กความพร้อมของอุปกรณ์ในการทำงาน ก็เป็นอึกหนึ่งอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ กล้องเว็บแคม โปรแกรมต่างๆในการทำงาน หรือแม้แต่อุปกรณ์อื่นๆที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน เช่น กล้องถ่ายภาพ กล้องวิดีโอ เป็นต้น หากไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้ บริษัทที่เราสมัครงาน จะมีการเสนอให้ใช้หรือไม่ หรือถ้าใช้อุปกรณ์ของตัวเอง ทางบริษัทจะมีค่าเสื่อมสภาพให้หรือไม่ เป็นต้น


5.อย่าลืมตรวจเช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ต
อีกหนึ่งสิ่งที่อาจสร้างปัญหาในการทำงานอยู่บ้านได้เลยก็คือ สัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่ถ้าหากไม่มีสัญญาณ หรือสัญญาณไม่เสถียร ก็อาจส่งผลให้การทำงานเกิดความล่าช้า หรือมีการสื่อสารที่ผิดพลาดได้ ก่อนสมัครงาน work from home จึงควรตรวจเช็กสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ดีนั่นเอง


6.ดูให้ดีว่าเป็นงานแบบ Work From Home หรือ Hybrid
อีกหนึ่งข้อที่หลายๆคนอาจลืมสังเกต และมองพลาดไปเลยก็คือ การเข้าใจผิดว่างานที่สมัคร คืองานแบบ Work From Home 100% แต่อันที่จริงคืองานที่ทำงานที่บ้าน สลับกับเข้าออฟฟิศ หรือที่เรียกกันว่า งานแบบ Hybrid ซึ่งถ้าหากสถานที่ตั้งของออฟฟิศที่สมัครงานอยู่ไกลบ้านจนเกินไป ก็อาจเกิดปัญหาในการเดินทาง และอาจต้องเสียเงินค่าเดินทางเป็นจำนวนมาก ก่อนสมัครงานจึงควรดูประกาศ รับสมัครงาน work from home ให้ดี ว่าต้องเข้าออฟฟิศร่วมด้วยหรือไม่



สมัครงาน work from home เหมาะกับคนทำงานแบบไหน?
1.เหมาะกับคนทำงานที่อยากประหยัดค่าเดินทาง
การทำงานที่บ้าน เหมาะกับคนที่อยากมีเงินเก็บ และอยากประหยัดค่าเดินทาง จากที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การเดินทางไปทำงาน มีค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาและเสียสุขภาพจิต การทำงานอยู่บ้าน จะช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น และประหยัดได้ทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย


2.เหมาะกับคนที่อยากมี Work Life Balance
การทำงานเข้าออฟฟิศ คนส่วนใหญ่มักเสียเวลาไปกับการเดินทาง แต่ถ้าหากได้ทำงานอยู่ที่บ้าน คุณก็จะมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ได้ออกกำลังกาย และทำสิ่งที่ชอบมากขึ้น ทำให้ชีวิตมี Work Life Balance มากขึ้นนั่นเอง


3.เหมาะกับคนที่มีความรับผิดชอบสูง
การทำงานอยู่ที่บ้าน อาจไม่เหมาะกับทุกคน เนื่องจากเป็นการทำงานอยู่คนเดียว ไม่มีหัวหน้า หรือใครมาคอยคุมงาน จึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบที่สูง และต้องมีความตรงเวลาสูงนั่นเอง


4.เหมาะกับคนที่มีสถานที่และอุปกรณ์ในการทำงาน
คนที่เหมาะกับการทำงานอยู่ที่บ้าน คือคนที่มีอุปกรณ์การทำงานที่ครบ มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดี และมีสภานที่ในการทำงานที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี


เทคนิคการ สมัครงาน work from home ให้เตะตาผู้รับสมัคร
1.เตรียมผลงาน Resume และ Portfolio ให้พร้อม
ขั้นตอนแรกในการสมัครงานแบบ Work From Home เลยก็คือ การเตรียมความพร้อมของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น พอร์ตสะสมผลงาน (Portfolio) , เรซูเม่ โดยควรรวบรวมผลงานและข้อมูลเอาไว้ให้เรียบร้อย อ่านง่าย เปิดไฟล์ได้สะดวก โดยอาจส่งผลงานผ่าน Google Drive  เพื่อให้ผู้รับสมัครสามารถเข้าดูผลงานได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากส่งไฟล์ผลงานที่มีขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาในการโหลดนาน ก็อาจทำให้การสมัครงานของคุณไม่เป็นที่สนใจ และถูกมองข้ามไปนั่นเอง


2.อย่าลืมเขียนจดหมายสมัครงาน
ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือการเขียนจดหมายสมัครงาน ในการส่งงานแต่ละครั้ง จำเป็นต้องมีการเขียนจดหมายสมัครงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนสมัครงานหลายคนไม่ทราบ โดยการเขียนประวัติส่วนตัวคร่าวๆ มีไฟล์แนบผลงาน เพื่อให้ผู้รับสมัครสามารถรู้จักตัวตนของคุณได้มากขึ้น


3.เรียกเงินเดือนให้เหมาะกับความสามารถ
ขั้นตอนต่อมาเลยก็คือการเรียกเงินเดือน ที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งงานและความสามารถ โดยควรระบุเงินเดือนไว้พร้อมกับการส่งใบสมัครงานเลยนั่นเอง


4.อย่าลืมบอกข้อดี ข้อเสียของตัวเอง
ข้อต่อมาคือการบอกข้อดี ข้อเสียในการทำงานของตัวเอง เพื่อให้ผู้รับสมัครงานทราบว่าข้อดีในการทำงานของเราคืออะไร และข้อเสียที่ตัวเราเองทราบคืออะไร


5.เตรียมบทสัมภาษณ์ และคำตอบไว้ให้ดี
หากผู้รับสมัครงานมีความสนใจในตัวของเรา ขั้นตอนต่อมาก็คือการสัมภาษณ์งาน จึงควรมีการเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานให้ดี โดยอาจเตรียมบทพูดในการสัมภาษณ์ และเตรียมคำถาม และคำตอบเอาไว้ให้ดี


6.ฝึกพูดหน้ากระจก เพื่อความพร้อม

สิ่งต่อมาที่ควรทำเลยก็คือ การฝึกพูดหน้ากระจก เพื่อเตรียมความพร้อมในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ โดยควรฝึกพูดแนะนำตัวหน้ากระจก เพื่อลดความกดดัน และเพื่อให้พูดได้อย่างเป็นธรรมชาตินั่นเอง


7.บอก Hard Skill และ Soft Skill
สิ่งสุดท้ายที่ไม่ควรลืมเลยก็คือ การค้นหา Hard Skill และ Soft Skill ของตัวเองให้เจอ และใช้ในการพรีเซนต์ตัวเองให้ผู้รับสมัครงานได้ฟัง เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งาน และเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวเองนั่นเอง

       ก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความ ต้องการ สมัครงาน work from home ทำวิธีนี้ให้เตะตาถูกใจ HR ไม่พลาดกับงานที่ต้องการ ที่เว็บไซต์ Jobmyway ได้นำมาให้คนทำงาน ที่หางานจากโพสต์ รับสมัครงาน work from home ได้นำไปทำตามกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งงานที่ถูกใจ และเงินเดือนที่ดี ในครั้งหน้า เราจะพาคุณไปชมบทความดีๆอะไรอีก อย่าลืมติดตามกัน

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆได้ที่นี่
รวมเครื่องมือสุดปัง ตัวช่วยให้คน หางานออกแบบ ได้งานง่ายขึ้น
งาน digital marketing agency งานไหนที่เหมาะกับคุณ
10 อันดับเทคนิคสัมภาษณ์งานออนไลน์ ที่ใช้แล้วได้งานชัวร์
หางานพนักงานขาย อย่างไรให้ได้คุณสมบัติตามที่กำหนด
ลงประกาศรับสมัครงานฟรี ที่ไหนดี ให้ได้พนักงานถูกใจ


TAGS : บทความผู้หางาน , อัพเดตตำแหน่งงาน , HR , jobmyway , เคล็ดลับทำงาน , สมัครงาน work from home , รับสมัครงาน work from home , หางานใกล้บ้าน , สมัครงานใกล้บ้าน , work from home

บทความที่ได้รับความนิยม
งานที่น่าสนใจ